เมื่อทราบแผนเดินทางกันแล้ว ออกจาก Roma แต่เช้าตรู่ ด้วย Leonado express รถไฟจากสถานี Roma Termini เพื่อไปยังสนามบิน Rome Fiumicino เพื่อออกเดินทางสู่ปารีส ด้วยสายการบินประหยัด Easyjet (รายละเอียดดูได้จากการจองตอนแรกนะจ๊ะ) รถไฟ Leonado express มีทุกชม. แต่จองไว้ก่อนก็จะเป็นการดี ใช้เวลาเดินทางราวๆ ชม. เผื่อเวลาสำหรับ Check in ด้วยนะคะ เราเลือกการจองผ่านตู้อัตโนมัติค่ะ ไม่ยากแล้วก็สะดวกดีค่ะ สามารถเลือกเวลาได้ค่ะ เมื่อมีตั๋วเรียบร้อย และหากาแฟพร้อมครัวซองค์อาหารเช้าง่ายๆ แถวสถานีรถไฟ ใส่ปากใส่ท้องเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ หน้าตาเจ้ารถด่วนที่จะพาเราไปสนามบินค่ะ บรรยากาศบนรถไฟ Leonado express ค่ะ จะมีที่วางกระเป๋าแยกให้เราก็เอาไปวาง แล้วค่อยไปหยิบเตรียมตัวตอนจะลงที่สนามบินค่ะ เราขลุกขลักนิดหน่อย ตอนที่ไป Checkin เนื่องจากเรามีเป้ เค้าเลยให้เราไปโหลดกระเป๋าอีกที่หนึ่ง ที่ไม่ใช่หน้าเคาท์เตอร์ เนื่องจากเป้จะมีเชือกๆ หากโหลดผ่านตรงหน้าเคาท์เตอร์ อาจจะทำให้เชือกติดๆ ได้ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีเมื่อ Checkin เรียบร้อย เราก็ออกเดินทางลัดฟ้าสู่ Paris กันเลยค่ะ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ฝรั่งเศส มี 2 สนามบินนะคะ ได้แก่ สนามบินนานาชาติชาร์ลเดอโกล Charles de Gaulle-CDE ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ถ้ามาจากเมืองไทยจะมาลงที่สนามบินนี้ และ สนามบินออร์ลี่ Orly airport ที่อยู่ทางใต้ ส่วนใหญ่ จะเป็นสายการบิน จาก ประเทศใกล้เคียงจะมาลงที่สนามบินนี้ค่ะ และขณะนี้เรากำลังจะลงที่ Paris orly airport นะจ๊ะ เมื่อลงที่สนามบิน ก็มึนๆ งงๆ เพราะว่าไม่เห็นมีตรวจพาสปอร์ตอะไรเลย แต่ก็สงสัยเราจะบินมาจากอิตาลีมั้ง คงเป็นวีซ่าเชงเก้น เลยไม่ตรวจหรือเปล่า แต่ลงปุ๊ปเอากระเป๋าปั๊ป เราก็หาทางไปที่พักตามแผนที่วางไว้ค่ะ การเดินทางจาก Orly Airport เราหาข้อมูลมาจาก เว็ปไซต์นี้ค่ะ ข้อมูลเกี่ยวกับสนามบิน: http://www.aeroportsdeparis.fr/ การเข้าเมืองจากสนามบินมีให้เลือกสองทางคือ รถไฟ กับ รถบัสประจำทาง มาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าทำยังไง เดินทางด้วย รถไฟ Orly Val - สิ้นสุดที่สถานี Antony(ออนโตนี) - Denfert Rochereau (ดองแฟร์ รูชชู) ราคาประมาณ €11.30/P หน้าตาตั๋วจะประมาณด้านล่างค่ะ แผนที่ก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ เดินทางด้วย Orly bus Orly Val - Denfert Rochereau (ดองแฟร์ รูชชู) ราคา €7.20/P มีรถทุกๆ 15-20 min ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึงสถานี Denfert Rochereau หน้าตาตั๋วจะประมาณด้านล่างค่ะ   แผนที่ก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ   เราเลือกการเดินทางเข้าเมืองด้วยรถบัสค่ะ สะดวกดี แต่ต้องฟังชื่อสถานีดีๆ นะคะ ไม่ยากเลยค่ะ ตั๋วโดยสาร: การเลือกตั๋วเดินทางท่องเที่ยวในเมืองปารีส มีหลายแบบมาก มีเวลาอยู่ประมาณ 2 วัน ให้เลือกที่เหมาะกับการเดินทางของเรา สำหรับเราเลือก ตั๋วชุดประหยัด เป็นตัวปกติ 10 ใบ เรียกว่า “การ์เน่ต์ (Carnet)” ซื้อได้ตามสถานีรถไฟ หรือสถานที่ๆ มีป้ายสัญลักษณ์ RATP ราคา €13.30/P ราคาอาจจะเปลี่ยนได้นะคะ zone 1-2 ใช้เดินทางในเขตปารีส โซน 1-2 ได้ทั้งเมโทร รถไฟ RER (แอ-เออ-แอ) และแนะนำให้ซื้อที่ละชุดนะคะ หมดแล้วค่อยซื้อใหม่ ขึ้นรถไฟครั้งหนึ่งก็ ใช้ 1 ใบค่ะ หากวางแผนการใช้งานดีๆ ก็น่าจะพอค่ะ Ticket -1 เริ่มต้นจาก Denfert Rochereau - เปลียนไป Metro สาย 6 เลือกไปปลายทางที่ สถานี Charles de Gaulle Etoile (ชาลเดอโก ทอยเล่ต์) แต่ลงที่สถานี Dupleix เพื่อไปยังที่พัก Au Pacific ที่ฝรั่งเศสเวลาจะหาทางออกง่ายๆ สังเกตุป้าย คำว่า Sortie (Exit) บรรยากาศบนสถานีค่ะ ที่พักสำหรับฝรั่งเศส จากการหาข้อมูลมา เราอยากได้ที่พักใกล้กับย่านท่องเที่ยวในปารีส ที่ปลอดภัย และสะดวกกับการเดินทาง เราเลือกที่ http://www.au-pacific-hotel.com/ พัก 2 คืน โดยจองผ่าน Website โรงแรมโดยตรง จ่ายแต่ค่ามัดจำเอาไว้ จ่ายแต่ค่ามัดจำ €5.6 สำหรับ 2 คน ห้องพักมีห้องน้ำในตัว ไม่มีอาหารเช้า Contact: Hôtel Au Pacific 11, Rue Fondary 75015 Paris - France +33 1 45 75 20 49 pacifichotel@wanadoo.fr แผนที่จากสถานีเมโทร ไปยังที่พักค่ะ ก่อนถึงที่พัก จะมีโบสถ์เล็กๆ และ ซุปเปอร์มาเก็ตเล็กๆ ด้วยค่ะ นับว่าสะดวกในการซื้อของเข้าไปมากๆ ห้องพักเล็กๆ แต่ก็สะอาดดีค่ะ ดูใหม่ด้วย ห้องน้ำในตัว มีอ่างอาบน้ำเล็กๆ ด้วย แช่น้ำอุ่นสบายเลย วิวจากหน้าต่าง ตั้งแต่เช้าที่ออกเดินทาง นอกจากกาแฟกับครัวซองค์ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องกันเลย ก็เลยเดินออกไปหาอะไรกินกันค่ะ แต่ด้วยความที่เพื่อนร่วมทริปของเรา ไม่ค่อยถูกโรคกับอาหารฝรั่ง เราก็เลยเลือกร้านอาหารจีนกันสำหรับมื้อนี้ค่ะ ก็เลือกๆ กันมานะคะ หิวโฮกค่ะ ซัดไม่เหลือ รสชาติก็พอถูไถรอดไปได้อีกมื้อค่ะ เมื่ออิ่มกันแล้ว เราก็สำรวจบรรยากาศรอบๆ ค่ะ ก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวหอไอเฟล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักค่ะ   ร้านดอกไม้สวยๆ ร้านกาแฟร้านหัวมุมค่ะ เล็งเอาไว้ตอนเช้าของพรุ่งนี้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราก็เที่ยวต่อกันเลย ด้วยความที่เป็นสาวถึกและบึกบึน อันที่จริง การไปหอไอเฟล Eiffel Tower เราสามารถที่จะเดินไปได้นะคะ แต่เราก็เซฟตัวเองด้วยการเดินทางด้วย เมโทรค่ะ เนื่องจากเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน อยากจะชิวบ้างค่ะ หากใครอยากเดิน เราก็มีแผนที่ให้ค่ะ ทำไว้เผื่อ เผื่อว่าจะขยัน แต่ก็ไม่ขยัน อิอิ แต่หากใครจะไปโดยเมโทร ก็ตามแผนนี้เลยค่ะ Ticket -2 เริ่มต้นจาก Metro 6 สถานี Dupleix - Tocadero เวลาประมาณ 13 นาที เพื่อไปถ่ายรูปจากอาคาร ปาเลส์เดอชายโย Palais de Chaillot มีลานด้านหน้าไว้เก็บภาพหอไอเฟล และมีพิพิธภัณฑ์ต่างๆ อยู่ สามารถเดินต่อไปยังหอไอเฟลได้เมื่อเก็บภาพเสร็จ โดยข้ามสะพานปอง อิเอน่า (Pont d’lena) แม่น้ำแซน ป้ายบอกทางบนสถานีค่ะ บรรยากาศระหว่างรอรถไฟค่ะ ระหว่างทาง ก่อนจะถึงสถานี ตอนที่รถไฟข้ามแม่น้ำแซน เราก็สามารถที่จะมองเห็นหอไอเฟลได้อย่างชัดเจนค่ะ นับว่าสวยไปอีกแบบ เมื่อมองจากบนรถไฟค่ะ ขึ้นจากเมโทร เราก็จะมาถึง อาคาร ปาเลส์เดอชายโย Palais de Chaillot ซึ่งเราก็จะเก็บภาพวิว และหอไอเฟลระยะไกลได้จากที่นี่ค่ะ ระหว่างทางที่เดินไปแม้ว่าจะไกล แต่ก็มีสวนสวยคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมายังหอไอเฟลแห่งนี้อย่างไม่ขาดสายค่ะ ระหว่างทางที่ข้ามแม่น้ำแซน เราเจออันนี้ด้วย สวยน่าเล่น อิอิ แต่โตแล้วเนาะยืนดูก็พอ สะพานปอง อิเอน่า (Pont d’lena) สะพานข้ามแม่น้ำแซน วิวแม่น้ำเมื่อมองจากบนสะพานค่ะ เมื่อเดินมาถึงหอไอเฟล เราก็มาซื้อตั๋วเข้าชมกันคะ่ เรามาดูวิธีการซื้อตั๋วเข้าชมกันนิดนึงนะคะ การจองตั๋วขึ้น EIFFEL Tower จอง online: http://www.tour-eiffel.fr/ แต่เราเลือกแบบไปต่อคิวซื้อ คิวเหมือนจะยาวนะคะ แต่ก็ต่อคิวอยู่ครู่เดียวเท่านั้น ไม่นานมากค่ะ การขึ้นไปชมวิวบนหอไอเฟล มีแบบขึ้นบันได กับขึ้นลิฟท์ เราว่าขึ้นลิฟท์ดีกว่านะ ส่วนบันไดจะขึ้นได้แค่ชั้น 2 เท่านั้น เวลาทำการของ หอไอเฟล ราคาตั๋วขึ้นชั้นบนสุด ตอนที่เราไป ราคาอยู่ที่ 14 € / P เรื่องราวของ Eiffel Tower ใช้เหล็กในการก่อสร้าง 18,038 ชิ้น สร้างเมื่อ ค.ศ.1887-1889 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี 2 เดือน กับอีก 5 วัน ด้วยฝีมือการออกแบบของ กุสตาฟ ไอเฟล (Gustave Eiffel) เพื่อฉลองงานครบรอบ 100 ปี แห่งการปฏิวัติอุสาหกรรม โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ชั้น 1 สูง 51 เมตร มีพวกร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก หอดูดาว และบันไดทางประวัติศาสตร์ที่กุลสตาฟใช้ปีนไปที่สำนักงานของเขา ส่วนชั้น 2 สูง 115เมตร เป็นที่ตั้งของร้านขายของที่ระลึก กล้องส่องทางไกล จุดเปลี่ยนลิฟต์สำหรับขึ้นชั้นบนสุด สุดท้ายคือชั้นชนสุด สูง 324 เมตร เป็นจุดชมวิว อดีตห้องทำงานของ กุลสตาฟ มีหุ่นขี้ผึ้งของเขากับลูกสาว กำลังต้อนรับ โทมัสอันวาเอดิสัน อยู่ ลิฟท์สีแดงสด จะพาเราไปยังชั้น 1 และสองค่ะ เราแวะชั้นที่ 1 เพื่อซื้อโปสการ์ดอยู่สักครู่ เสร็จแล้วก็ไปต่อยังชั้นที่สองเลยค่ะ วิวจากชั้น 2 ค่ะ จากนั้นเราก็ไปต่อกันยังชั้นบนสุดเลยค่ะ ลิฟท์จะเป็นสีน้ำตาลทอง ชั้นนี้นอกจากจะเป็นจุดชมวิว บนความสูง 324 เมตรแล้ว ยังเป็นที่แสดงความเป็นมาและการก่อสร้างหอไอเฟลแห่งนี้ด้วยค่ะ ห่างจากประเทศไทยเท่าไหร่ ที่นี่ก็มีบอกนะคะ วิวแม่น้ำแซนจากชั้นบนสุดค่ะ อดีตห้องทำงานของ กุลสตาฟ มีหุ่นขี้ผึ้งของเขากับลูกสาว กำลังต้อนรับ โทมัสอันวาเอดิสัน อยู่ วันนี้จากอากาศที่เปลี่ยนๆ เราก็เริ่มรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย ก็เลยขอกลับด้วยเมโทรตามเส้นทางเก่าที่มานะคะ ใช้ตั๋วใบที่ 3 ค่ะ Ticket-3 ระหว่างทางก็ผ่านสวนเดิม วันนี้มีแดดสวย และอากาศดี ก็เลยเห็นคนมาออกกำลังกาย บ้างก็มานั่งชมสวนกันเยอะแยะเลยค่ะ โชคดีที่เห็นไอเฟลในวันอากาศดีค่ะ เมื่อกลับถึงที่พัก กินยา แล้วก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัยค่ะ ไว้จะมาพาเที่ยวต่อในตอนถัดไปนะคะ ^^ เรายังคงอยู่ในปารีส อีก 1 วันค่ะ