เรือที่จะพาเราไปเกาะกูดจ้า
แล้วเราก็ต่อรถมาลงที่ท่าเรือเฟอร์รี่ เพื่อข้ามไปเกาะกันจ้า
หลังจากรองท้องกันเรียบร้อยก็จอดรถทิ้งไว้ที่นี่ มีร่มไม้อย่างดี รถไม่ร้อนค่ะ หลังจากนั้นก็ขึ้นรถตู้ไปลงเรือ เวลาก็ประมาณ 8 โมงได้ โชคดีที่วันนี่ทะเลราบเรียบ เราก็เลยใช้เวลาเดินทางไปถึงเกาะประมาณ แค่ 1 ชั่วโมงเศษ เท่านั้นค่า มาถึงทางรีสอร์ทก็มีบริการ น้ำมะพร้าวเย็นเจี๊ยบ พร้อมกับข้าวต้มปลาหมึกทรงเครื่องร้อน ๆ ให้ทานมื้อเช้ากันก่อนท่าเรือที่เกาะกูดจ้า

ข้าวต้มปลาหมึกทรงเครื่อง กับน้ำมะพร้าวเย็นเจี๊ยบ

เดินชมบรรยากาศรอบรีสอร์ทกันสักเล็กน้อย
บรรยกาศด้านหน้ารีสอร์ท
หลังจากนั้นก็ชี้แจงเวลาอาหาร และโปรแกรมทั้งหมดค่ะ หลังจากนั้นก็แจกกุญแจห้องและมีค่ามัดจำกุญแจ 100 บาท ถ้าหากว่าหายเนี่ย เค้าคิดค่ากุญแจ 300 บาท เพราะฉะนั้นต้องเก็บรักษาดีๆเลยนะคะ หลังจากนั้นก็เข้าที่พักค่ะ ห้องพักของเราเป็นแบบ ก็เลยอยู่ทางด้านหลัง เราก็เดินตามกระเป๋าที่พนักงานยกไปเลยค่ะ ห้องพักที่มาพักก็สะอาดเรียบร้อยดีค่ะ มีอ่างจากุชชี่ตรงระเบียงหน้าบ้าน มีระแนงไม้ไผ่บังตา แต่แนะนำว่าให้ใส่ชุดว่ายน้ำลงไปแช่จะดีกว่าคะ ฮ่าๆ ไม่งั้นจาเสี่ยงเกินไป ด้านในก็มีทีวี ตู้เย็น และเครื่องเล่นดีวีดี ค่ะ สามารถไปยืมแผ่นได้ที่ส่วนกลางตรงโซนรับประทานอาหารค่ะ ห้องน้ำเป็นแบบ shower ค่ะ มีสบู่แชมพูให้ปกติ และก็มีไดร์เป่าผมด้วยค่ะบรรยากาศห้องนอน สะอาดเรียบร้อยดี
มีทีวี ตู้เย็น และมีดีวีดีหนังให้ยืม สามารถยืมมาดูได้โดยไปยืมได้ที่ส่วนกลางจ้า
จากุชชี่ หน้าบ้าน ก็ใส่ชุดว่ายน้ำก่อนลงไปแช่แล้วกันเนาะ อยู่หน้าบ้าน ได้ใช้ไปสองรอบอุ่นสบายมาก
อ่างล้างหน้า ห้องน้ำมีไฟแค่ตรงนี้ ไฟน้อยมาก แต่นั่นล่ะเกาะเค้าใช้ระบบปั่นไฟ
มีน้ำอุ่นอาบ ห้องน้ำเป็นแบบ shower
วิวที่สามารถมองได้จากหน้าห้องพัก
หลังจากเก็บของเรียบร้อยเราก็ของีบกันก่อนที่จะออกไปเที่ยวในช่วงบ่าย หลังจากนอนหลับเต็มตื่นแล้ว ก็ออกมาเดินเล่นเก็บภาพสวยๆ ระหว่างรอไปเที่ยวน้ำตก และรับประทานอาหารกลางวันที่เป็นบุฟเฟต์เล็กๆ อีกเช่นเคย
ภาพท่าเรือยอดฮิต ที่ใครมาก็ต้องอดเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ แบบนี้ไว้ไม่ได้
ปูแบบนี้สวยดี ไต่อยู่ตามโขดหินหน้ารีสอร์ทมีเยอะมาก ไม่รู้ว่ากินได้หรือเปล่า
อันนี้เป็นส่วนของทางเดินที่แยกออกมา สามารถเดินไปที่หาดเล็กๆ ตอนน้ำลง และเดินไปที่พักได้ ทางลัดของเรา อิอิ
สะพานไม้ทอดยาวเป็นทางเดินไปที่พักที่อยู่ด้านซ้าย และเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำ มีกฏว่าต้องอาบน้ำก่อนทุกครั้ง และต้องใส่ชุดว่ายน้ำเท่านั้น เนื่องจากการทำความสะอาดสระ ทำได้ยากมาก เนื่องจากน้ำบนเกาะหายาก
วิวที่มองได้จากสระว่ายน้ำ
แอบมาถ่ายบรรยากาศใกล้ๆ กะรีสอร์ทอื่น สวยเหมือนกัน อยู่ทางด้านขวาของรีสอร์ทที่เราไปพัก
เวลา 2:00 โดยประมาณ เราก็ออกเดินทางไปยังน้ำตกคลองเจ้า ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเกาะ ดังนั้นเราจึงต้องนั่ง speed boat ไป พอเรือเทียบท่า ก็ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกสักเล็กน้อยก็จะถึงน้ำตกจ้า
ทางเดินขึ้นน้ำตก เดินๆ กลางดง
นี่มันป่าชัดๆ แสดงว่าธรรมชาติยังสมบูรณ์อยู่มาก น่าดีใจ ระหว่างทางก็จะมีเสียงจิ้งหรีดร้องระงม อย่างกับมีคนมาเปิดลำโพงแน่ะ
มาถึงแล้ว น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกสวย น้ำเยอะพอสมควร น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา
เห็นตัวปลาจริงๆ
เมื่อถ่ายรูปจนหนำใจก็ลงไปเล่นน้ำตกสบายใจเฉิบ
หลังจากเล่นน้ำตกเป็นที่สำราญใจแล้ว ก็ได้ลื่นล้มไปสองรอบ จากเส้นทางเดินกลับ ต้องเดินด้วยความระมัดระวังอย่างมาก (นี่ขนาดระวังแล้วยังลื่น) พื้นจะมีตะไคร่จับเยอะตลอด ยิ่งตรงช่วงที่หินโดนน้ำ จะลื่นมากเป็นพิเศษ
หลังจากกลับมาจากการชมน้ำตก เราก็กลับมาเล่นน้ำทะเลกันต่อหน้าที่พัก และชิงช้าที่อยู่ที่หาดเล็กๆ ซึ่งจะเห็นหาดตอนเย็นที่น้ำลงแล้วค่ะ ชอบมาก เล่นอยู่นานเลย
หินบางก้อนก็จะมีรูพรุนๆ สวยดีเหมือนกัน
ได้เวลาอาหารเย็นที่เป็นแบบบุฟเฟต์อาหารทะเล ไม่อั้นกันเลยทีเดียว จริง ๆมีปลาหมึกย่างอีกอย่าง แต่หมึกมาทีหลัง
หลังจากอิ่มกันแล้ว เราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน จะชมทะเลนอนดูดาวยามค่ำคืน ตกหมึกหน้าที่พัก หรือว่าจะยืมดีวีดีหนังไปนอนดูสบายใจก็ตามแต่เลยจ้า เช้าวันที่สอง กับอาหารเช้าริมทะเล อาหารเช้าเป็นแบบ บุฟเฟ่ต์ มีให้เลือก ทั้ง ขนมปัง ไข่ดาว เบคอนทอด ไส้กรอก แฮม ข้าวผัด สลัด คอนเฟลค ข้าวต้มปลาทรงเครื่อง และเครื่องดื่ม ต่างๆ ทุกอย่างไม่อั้น เหอๆ เยอะมากเลยค่ะ เลือกไม่ถูก แต่ cheekka ก็เลือกเป็นแบบ ตามใจฉันเลยค่าา อิอิ กินอยากละนิดล่ะหน่อยหลังจากอิ่มกับอาหารเช้าแล้ว เราก็ได้รับฟังโปรแกรมของวันนี้ซึ่งเราจะออกเรือไปดำน้ำกันที่เกาะรังค่า เวลาเรือออกก็ราว ๆ 9.30 ออกไปไกลพอสมควร และไปแวะทานอาหารกันที่นั่นเลย ระหว่างรอเรือออกไปดำน้ำ cheekka ก็เลยเก็บบรรยากาศรอบๆ มาฝากกันอีกรอบค่ะ
เปลยวนชิวๆ หน้ารีสอร์ทค่ะ สามารถนอนเล่นอ่านหนังสือได้
ลานหินตรงนี้สามารถมาดูดาวตอนกลางคืนได้ อากาศเย็นสบาย แต่ถ้าตอนกลางวันจะร้อนสุดๆ แต่ช่วงเช้าก็ยังสามารถนั่งเล่นได้ค่ะ
บันไดตรงท่าเรือเอาไว้ขึ้นมาจากน้ำ ขาลงก็กระโดดลงไป ตอนนี้น้ำขึ้น แต่ตอนเย็นที่เล่นน้ำ น้ำลงไปเกือบบันไดข้นที่สี่นับจากข้างล่าง สนุกดี น้ำใสน่าเล่นจนไม่อยากเล่นสระว่ายน้ำ มีชูชีพและ snokle ให้ยืมได้ แค่ดำน้ำหน้ารีสอร์ทก็เห็นปลิงทะเลแล้วววว ธรรมชาติยังสมบูรณ์อยู่มากเลยค่ะ
ปลาตัวเล็กๆ น่ารัก
หลังจากเก็บภาพเป็นที่จุใจก็ได้ออกเรือไปดำน้ำกัน เสียดายที่ cheekka ไม่มีกล้องกันน้ำก็เลยเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆ ไมได้ ไปคราวหน้าว่าจะหาซื้อไปซักตัวจะได้ "พาเพื่อนๆ ไปดำดูปลาการ์ตูน" ได้แต่เก็บความทรงจำมาเล่าให้ฟัง ว่าดำน้ำแบ่งเป็นสองรอบ รอบแรกก่อนกินข้าว จุดหนึ่ง แล้วก็ไปกินข้าวกลางวัน เป็น ข้าวผัดปู และหมี่ผัดปู เป็นขาวกลางวันซุปเปอร์ปูไป หลังจากนั้นเราก็ไปดำน้ำจุดที่สองแล้วจึงกลับที่พัก จุดดำน้ำที่เกาะรังของที่นี่ มีน้องปลาสีสันสวยงามแหวกว่ายอยู่มากมาย ^^ ปะการังก็สวย จนไม่อยากจะขึ้นจากน้ำเลยค่ะ ธรรมชาติใต้น้ำยังสวยงามอยู่ อยากให้ทุกๆ คนที่ไปช่วยกันรักษานะคะ
บรรยากาศตอนเย็นหลังจากไปดำน้ำมา
ท้องฟ้าวันนี้สวยจังค่ะ
วาดๆ แบบนี้มันต้องมีต้นมะพร้าวด้วย ถ้ามาเกาะ
แทนแท๊นน เสร็จแล้ว หลักฐานการมาเยือน
พระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้าเป็นสีส้มอมชมพู สวยงามจับใจเลยค่าาา
โคมไฟของที่นี้รูปร่างเหมือนอะไรน้าาา .... ชัดเลยแมงกระพรุนนี่นา
อาหารเย็นวันที่สอง ไม่อั้นอีกเช่นเคย มีปลาหมึกกระเทียมด้วย แต่ว่ามาทีหลังตลอดเลยพี่หมึกเนี่ย ลืมบอกว่าการจัดบุฟเฟ่ต์อาหารเย็นของที่นี่ไม่ได้ให้ตักเองค่ะ แต่จะมีมาเสริฟที่โต๊ะ หากอยากได้อะไรเพิ่มก็สามารถสั่งได้ค่ะ เพราะว่าไม่อั้น cheekka ว่าแบบนี้ดีนะคะ จะได้ไม่มีการตุนอาหารเกิดขึ้น ได้กินเท่าเทียม อิ่มสบายท้องเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัย อ่อวันนี้ทีมงานเค้ามีโชว์ ควงกระบองไฟด้วยค่ะ สวยมากค่ะ ชอบๆ
เช้าวันจะกลับเพิ่งจะได้ถ่ายป้ายรีสอร์ท ปกติคนจองถ่ายตรงนี้เยอะมาก
โอ้ทะเลแสนงาม จะกลับแล้วเหรอเนี่ย ยังไม่อยากกลับเลยอะ
สะพานไม้ ถ่ายจากมุมท่าเรือเข้าไป
เรามีการทานอาหารเช้าอีกมื้อ ก่อนออกเดินทางกลับเข้าฝั่งด้วยค่ะ หลังจากทานแล้วก็ชิวๆ รอลงเรือค่ะ
เจ้าเหมียวทะเลนะคะ ขี้อ้อนมากเลยค่ะ แล้วก็บ๊ายๆ เกาะกูดค่ะ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกค่ะ
1,683 total views, 2 views today