Indonesia – Bali – บาหลี ดินแดนแห่งวัฒนธรรม ตอนที่ 1 Water blow คลื่นยักษ์โขดหินภูเขาไฟ / Uluwatu วัดบนหน้าผางาม / ที่พัก The Bene Hotel Kuta

ถ้าเป็นต่างประเทศในเอเชียที่อยากจะไปท่องเที่ยว สถานที่หนึ่งก็ต้องนึกถึงบาหลี สำหรับเรารู้สึกว่าเป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรม ที่ยังหลงเหลืออยู่ เราจึงตัดสินใจเดินทางไปชื่นชมวัฒนธรรมและทัศนียภาพอันงดงาม

แผนการท่องเที่ยวบาหลี

การเตรียมตัวไปเที่ยวบาหลี เราก็ต้องมาทำความรู้จักบาหลีกันก่อนสักนิด

บาหลี (Bali) เป็น 1 ในเกาะของอินโดนีเซีย โดยมีเมืองสำคัญคือ Denpasar ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินหลัก ศาสนาในบาหลีมีหลายศาสนา ฮินดู อิสลาม พุทธ และคริสต์ แต่ส่วนใหญ่จะนับถือ ศาสนาฮินดู ซึ่งจะเห็นได้จากศิลปะต่างๆ ที่อยู่ในเมือง

ฤดูกาลของบาหลี (Weather) บาหลีเป็นเกาะเขตร้อน ดังนั้นฤดูกาลจึงแบ่งเป็น 2 ฤดู ฤดูฝน และ ฤดูร้อน โดยแบ่งเป็นช่วงเดือนคือ

ฤดูฝน พฤศจิกายน - เมษายน ฤดูร้อน พฤษภาคม - ตุลาคม

นอกจากฤดูกาลตามธรรมชาติแล้ว ฤดูท่องเที่ยวก็สำคัญไม่น้อย ในการวางแผนการเดินทาง ฤดูท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุดคือ เดือน กรกฎาคม - สิงหาคม ดังนั้นใครจะไปช่วงเวลาดังกล่าว ก็รีบจับจองที่พักเอาไว้ให้ดี

ในส่วนของเราเลือกไปเดือน กุมภาพันธ์ จะบอกว่าจริงๆ เลือกตามราคาตั๋ว ได้โปรมาก็รีบใช้นะเออ ส่วนพี่ฝน ก็ไปวัดดวงกันเอาว่าจะตกหรือไม่ตก

ตั๋วเครื่องบิน (Air ticket) มีหลายสายการบินที่บินตรงถึงบาหลี รอบนี้เราใช้ airasia พี่หางแดงของเราเจ้าประจำค่ะ ระยะเวลาในการบินจาก กรุงเทพฯประเทศไทย ไปยัง เดนปาซาร์ บาหลี ราวๆ 4 ชม. ค่ะ

ภาษา (Language) แม้ภาษาทางการของที่นี่จะเป็นอินโดนีเชีย แต่ที่นี่ก็มีภาษาบาหลี ที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ เนื่องจากบาหลี เป็นเมืองท่องเที่ยว ร้านค้าต่างๆ หรือผู้คนส่วนใหญ่จะสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

วีซ่า (Passport & Visa) สำหรับนักท่องเที่ยวไทย ไม่ต้องขอวีซ่า เพียงแค่มีหนังสือเดินทางประเทศไทยอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก็สามารถที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังบาหลีได้อย่างสบายใจ

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (Exchange)  บาหลี ใช้สกุลเงินเดียวกับ อินโดนีเชีย นั่นก็คือ รูเปียห์ (Rupiah) IDR ตอนเราไปแลกมาได้ 1 บาท ประมาณ 270 รูเปียห์ เรียกได้ว่าดูเป็นเศรษฐีเวลาพกเงินกันเลยทีเดียว ตอนที่แลกเงินจากไทย ส่วนใหญ่ได้แต่แบงค์ใหญ่ แบงค์ย่อยต้องไปแตกเอาที่นู่นเวลาใช้ค่ะ

เวลา(Time) เวลาของบาหลีเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม.ค่ะ ปรับนาฬิกาเวลาไปถึงด้วยนะคะ

ปลั๊กไฟ เป็นปลั๊กแบบสองตาขากลม ดังนั้นถ้าหากใครมีตัวแปลงปลั๊ก universal ก็สามารถใช้ได้เลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่โรงแรมที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอๆ มีให้อยู่แล้วค่ะ แนะนำสิ่งที่ต้องนำไปเพิ่มคือสายเสียบพ่วงค่ะ

การเดินทางในบาหลี เนื่องจากบาหลี ไม่ได้มีการคมนาคมประเภทรถไฟฟ้า หรือการขนส่งสาธารณะเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เป็นแท๊กซี่ การเดินทางรอบนี้ เราจึงใช้บริการของ Teddy Tour ค่ะ จริงๆ ทัวร์ภาษาไทยก็มีค่ะ แต่เราเลือก Teddy เพราะอยากได้คนท้องถิ่นเป็นคนนำเที่ยวค่ะ

ที่พัก เราเลือกที่จะจองที่พักด้วยตัวเอง โดยจองผ่านการติดต่อโรงแรมทางอีเมลค่ะ ใกล้หาดกูตะ (Kuta beach) รอบนี้ไม่ได้ไปพักแถวอูบุดเลยเพราะอยากเซฟงบ เป็นโรงแรมขนาดกลางค่ะ The Bene Hotel Kuta  ได้โปรส่วนลดเพราะจองล่วงหน้า 4 วัน 3 คืนค่ะ มีส่วนลดสปาด้วยนะคะ Website : https://www.thebenehotel.com/

การจัดกระเป๋า

ควรทำ Check list ก่อนหยิบของลงกระเป๋าเช่นเดิมนะคะจะได้ไม่ลืมของค่ะ
  1. กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ และเล็ก
  2. Passport หนังสือเดินทาง บัตรเครดิต เผื่อใช้ยามฉุกเฉินค่ะ
  3. ยาสามัญต่างๆ อาทิ ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้อากาศ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้อักเสบ เกลือแร่ ปลาสเตอร์ยา ยาทาแก้ปวดเมื่อย ยาคลายกล้ามเนื้อ รอบนี้เราได้ใช้ค่ะ เพราะป่วยตอนวันใกล้ๆ จะกลับ
  4. แว่นกันแดด ครีมกันแดด ของใช้ส่วนตัวต่างๆ พวกเครื่องสำอางค์
  5. ตัวแปลงปลั๊กไฟ และ ปลั๊กพ่วงสำหรับเสียบไฟ
  6. แผนที่การเดินทาง เอกสารการจองที่พัก

เมื่อพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวกันเลยเย่

ออกเดินทางจากประเทศไทย ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองด้วยอาการมึนๆ ง่วงๆ เนื่องจากเป็นเที่ยวบินเช้าตรู่ จนมองเห็นพระจันทร์จากบนเครื่อง

cheekkachic - Indonesia - Bali

บนเครื่องเลยสั่งผัดกระเพราไก่ส่งท้าย ก่อนจะไปกินอาหารพื้นเมือง ประสบการณ์ 4 ชม. ที่ขมคอ เนื่องจากมีฝรั่งแต่งตัวติสๆ แต่กลิ่นตัวแรงอย่างกับขนแมลงสาบขึ้นเครื่องมา โชคดีที่เราพกยาดมมาด้วย ไม่งั้นเสร็จแน่

cheekkachic - Indonesia - Bali

ตอนรอ landing เราก็เดาอยู่ว่าจะลงที่เกาะไหน เรามองไม่เห็นวิวเท่าไหร่เนื่องจากนั่งตรงปีกบวกเมฆเยอะมาก cheekkachic - Indonesia - Bali แต่ก็เห็นเกาะๆ หนึ่ง มีหลังคาเป็นสีส้มเกือบทั้งเมือง นั่นล่ะบาหลี รวมทั้งยังมีทางด่วนที่ยาวแสนยาว ทอดลงไปในทะเลเพิ่มความสะดวกอีกด้วย เราจะได้ลองนั่งรถขึ้นทางด่วนนั้นมั้ยนะ cheekkachic - Indonesia - Bali ถึงสนามบิน สถาปัตยกรรมของสนามบินก็มีความเป็นบาหลีมากๆ หลังจากผ่านตม. เรียบร้อย ออกมาก็มีคนจากทีม Teddy มารับ ตอนเดินออกมาแท๊กซี่ถามกันเกรียว คล้ายบ้านเราเหมือนกัน แต่เรามีคนพาเที่ยวแล้วค่ะ ไกด์ของเราคือ TG คือจริงๆ แล้วมีชื่อบาหลีนะ แต่เราคงออกเสียงเรียกไม่ได้ ชื่อยาวมาก จำไม่ได้ ชื่อนี้เขาบอกว่าคนไทยตั้งให้ ตอนเห็นชื่อใน Facebook เขาบอกว่าง่ายดี คล้ายกับการบินไทยบ้านเรา รถที่มารับเป็นโตโยต้าสีดำ เป็นรถแวน ขนาดใหญ่นั่งสบายแอร์เย็นฉ่ำ สนามบินที่นี่ใหญ่และสะดวกกว่าที่คิด เป็นสนามบินที่สร้างแล้วยังคงรักษาเอกลักษณ์ ความเป็นบาหลีอยู่เต็ม ดูตัวอย่างได้จากภาพค่ะ ระหว่างทางที่จะไปทริปแรก เราได้วิ่งผ่านทางด่วน TG เล่าว่าทางด่วนนี้เพิ่งสร้างตอนมีการประชุมเอเปค เลยทำให้ย่นระยะเวลาการเดินทางไปได้มาก ปกติจากสนามบินเข้าเมืองใช้เวลานานเหมือนกัน Teddy team มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย TG เลยเข้าใจภาษาไทยเล็กน้อย สำเนียงอังกฤษผสมบาหลี ก็ฟังไม่ยากเท่าไหร่ พอไหว น่าจะสนุกทริปนี้ ทริปนี้เราจะไปเที่ยวก่อนเข้าเชคอินที่โรงแรม ปล. งีบมาแป๊ปเดียวบนเครื่องถึกจริงๆ ถ้าเราแลกเงินมาเรียบร้อยแล้ว เขาจะพาเราไปกินข้าวที่ Malioboro เป็นร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว ร้านนี้ออกแนวอาหารจีน อาหารแนะนำก็คือ crispy duck เราไม่ค่อยหิวเท่าไหร่เลยสั่งปลากับไก่มาลอง บวกน้ำเปล่า ราคาตก 243,800 rp เมนูปลา Gurami Goleng Terbang cheekkachic - Indonesia - Bali เมนูไก่ Ayam presto telur asin cheekkachic - Indonesia - Bali ไก่กินกับซอสข้นๆ อันนี้ cheekkachic - Indonesia - Bali หลังจากอิ่มเรียบร้อยแล้ว สถานที่แรกที่เราจะไปก็คือ Water blow ที่หาดนูซาดูอา (Nusa dua Beach ) Water blow ก็คือ การที่คลื่นซัดเข้ามาที่โขดหินหน้าผาภูเขาไฟ แล้วเกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่ แตกกระจายเป็นฟองสีขาวในอากาศ ถ้าวันไหนโชคดีคลื่นลมแรงเราก็จะได้เห็นฟองสีขาวกระจายแบบเต็มสูบ ไปถึงที่จอดรถ TG ถามว่าเราต้องการร่มมั้ย เราตอบว่าไม่ เพราะคิดว่าคงไม่ร้อนมาก ถ้ามีโอกาสมาขอบอกว่าให้เอาร่มมานะ เพราะร้อนมาก เราพลาดอย่างแรง ช่วงแรกที่เดินเข้าไปจะเป็นสวน มีรูปปั้นต่างๆ รูปปั้นที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวของ รามายณะ เดินไปสักพักจะพบชายหาด มีคลื่นสีขาวสูง และมีนักวินเซิฟอยู่ตามรายทาง ที่กำลังจะไปเล่นเซิฟในทะเล cheekkachic - Indonesia - Bali เดินไปสักพักเราจะเห็นหินเป็นรูปร่างประหลาด เนื่องจากบางครั้งน้ำจะพุ่งขึ้นมาสูงจนเซาะหินแถวนี้กลายเป็นร่องน้ำอย่างที่เห็น ระหว่างทางเดินมาร้อนมากก ร้อนสุดๆ และก็มาถึงจุดที่หยุดชม water blow เป็นร่องหิน+หน้าผา ทำให้คลื่นที่ซัดเข้ามีกำลังแรงจนน้ำทะเลพุ่งสูงขึ้น วันนี้คลื่นไม่แรงมากเราจึงเห็นแค่บางส่วน cheekkachic - Indonesia - Bali cheekkachic - Indonesia - Bali cheekkachic - Indonesia - Bali cheekkachic - Indonesia - Bali ถ่ายรูปกันสักพักเราก็เดินกลับ ถ้าที่ไหนมีค่าจอดรถ teddy team จ่ายให้เรียบร้อยแล้วไม่มีค่าที่จอดรถแยก สะดวกกับเรามาก โชคดีที่ขึ้นรถมาแล้วรถแอร์เย็นฉ่ำ ต่างกับอากาศข้างนอกที่ร้อนระอุ หลังจากขับมาสักพักเราก็มาถึง Uluwatu temple วัดบนหน้าผา เมื่อมาถึง เราก็ส่งเงินค่าบัตรผ่านให้ TG ในส่วนของบัตรผ่านเราต้องจ่ายเอง ที่นี่ TG เข้าไปกับเราด้วย น่าจะมีสิทธิพิเศษสำหรับไกด์บางที่ ก่อนเข้าไปในสถานที่ที่เป็นวัด เราก็ต้องแปลงร่างก่อน ด้วยการนุ่งโสร่ง ที่นี่คนบาหลีก็เรียกโสร่งเหมือนกันแต่สำเนียงอาจจะแปลกไป โสร่งที่นี่เป็นผ้าผื่นเดียวแยกเราสามารถผูกปลายทั้งสองข้างเข้ากับเอว แต่ถ้าเป็นผู้ชายถ้าใส่ขายาว คาดผ้าสีเหลืองอย่างเดียวก็สามารถเข้าชมได้แล้ว Uluwatu เป็นวัดอยู่ทางใต้สุดของเกาะบาหลี วัดนี้ตั้งอยู่บนยอดของหน้าผาสูง 250 ฟุต (76 เมตร) ที่มองออกไปเห็นทะเลชวา (Java Sea) สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ตามความเชื่อของคนอินโดนิเซีย เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ของบาหลีเลยทีเดียว ถ้าหากใครอยากชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ ก็สามารถมาในตอนเย็นๆ ได้ มาตอนกลางวันแบบเราก็ร้อนใช้ได้ TG เป็นไกด์ที่ช่างอธิบาย พอเข้าไปในเขตวัด เขาบอกว่าถ้าเดินไปทางขวาเราจะวนครบโดยเริ่มตั้งแต่จุดแรก หากใครไม่รู้เดินตรงไปก็จะต้องวกกลับมาตรงนี้ uluwatu มาครั้งแรกเราก็เรียกไม่ถูก ภาษาค่อนข้างยากในการเรียกและจดจำสำหรับเรานะ เราก็เลยจำว่าที่นี่คือวัดบนหน้าผา จุดแรกเราก็หยุดถ่ายภาพ หน้าผาสูงเห็นคลื่นเป็นฟองสีขาว เราใช้ทางเดินเลาะริมผาไปเรื่อยๆ ทางเดินเป็นปูนปกติ เดินสะดวก cheekkachic - Indonesia - Bali เดินไปเรื่อยจนเข้าสู่จุดถ่ายภาพ โชคไม่ดีเจอนักท่องเที่ยวจีนมารยาทแย่ อันที่จริงก็ไม่อยากจะว่า แต่นักท่องเที่ยวชาตินี้หลายคนค่อนข้างเห็นแก่ตัว ถ้าเป็นรุ่นเด็กๆ จะเริ่มรู้มารยาทสากล เราเลยถ่ายภาพไม่ถนัดเท่าไหร่ เพราะคนเยอะ และถ่ายกันจนไม่มีที่ให้นักท่องเที่ยวอื่น ถ้าคนที่เคยเจอคงเข้าใจ ประมาณถ่ายเสร็จก็ยังยืนแช่อะไรประมาณนั้น cheekkachic - Indonesia - Bali ส่วนด้านในของวัด TG บอกว่าถ้าเราไม่ได้สวมชุดที่ไปวัดของคนที่นับถือศาสนาฮินดู เราไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ เราเก็บภาพไปเรื่อยๆ จนออกจากส่วนของวัด อากาศร้อนจนเสื้อเปียก ตามสภาพอากาศของเกาะ เราโชคดีมากที่ฝนไม่ตก แต่ก็เริ่มมีเพลียแดดบ้าง หลังจากออกจาก uluwatu เราก็กลับโรงแรม โรงแรมของเราอยู่ในเขต Kuta เขตนี้ค่อนข้างจะเป็นนักท่องเที่ยวนิยมมา มีหาด kuta ที่นักวินเซิฟก็นิยมมาเล่นกัน ดังนั้นในย่านนี้ค่อนข้างจะคึกคัก และเห็นชาวต่าวชาติจำนวนมากอยู่บริเวณนี้ ระหว่างทางกลับโรงแรม เราก็คุยไปเรื่อยเกี่ยวกับบาหลี คนที่นี่นับถือหลายศาสนา คล้ายบ้านเรา แต่ 95% จะนับถือฮินดู ที่เหลือก็จะมี มุสลิมบ้าง คริสเตียน หรือ คริสต์คาทอลิก อาหารการกินจริงๆ ที่นี่มีเนื้อทุกแบบ แต่ถ้าฮินดูจะไม่ทานเนื้อวัว ส่วนถ้าเป็นอิสลามก็ไม่ทานเนื้อหมู ดังนั้นก็เลยมีทั้งไก่ เนื้อ หมู เพราะนักท่องเที่ยวกินหมดทุกเนื้อ บ้านส่วนใหญ่ที่นี่ปลูกได้ไม่สูงมาก ที่นี่จำกัดความสูงในการสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ จริงๆ เราก็ว่าดีนะเพราะเป็นการรักษาทัศนียภาพได้อย่างดีเลยทีเดียว หลังคาบ้านก็สีส้มอิฐคล้ายกันมากทุกหลัง ถ้าบ้านชาวบ้านปกติหลังก็จะเล็กๆ แบ่งเป็นพื้นที่ในบ้าน เราเห็นบางตึกทำเป็นมินิมาร์ทขายของชั้นล่าง แต่ด้านบนเป็นทรงสไตล์บาหลี ถ้าเราเข้าใจไม่ผิด TG บอกว่าบางบ้านก็มีวัดเล็กๆ ในบ้าน ชั้นบนบางทีก็เป็นวัด แต่ถ้าเป็นศาสนสถาน ขนาดก็จะใหญ่กว่ามาก และสร้างด้วยรูปทรงบาหลีอย่างชัดเจน นอกจากจำกัดความสูงแล้ว ที่นี่จำกัดความเร็วในการขับรถด้วย เราเห็น 60-80 กม. เราก็ถามว่าบังคับได้เหรอ TG เราเคารพคนเดินถนน และคนทั่วไปที่ใช้ถนนร่วมกับเรา ต้องระวังอันตราย แต่มอเตอร์ไซด์ ไม่ได้จำกัดความเร็วเหมือนรถยนต์ และมีเยอะมาก เราว่าแอบอันตรายเหมือนกัน ถนนที่นี่เล็กมาก และจอแจไปด้วยผู้คน ยกเว้นทางไปสนามบินเดนปาร์ซาร์ ที่จะวิ่งได้ 4 เลน รถวิ่งทางเดียวกับประเทศไทย การไปท่องเที่ยวหรือไปสถานที่ต่างๆ เราต้องขับรถผ่านหมู่บ้านและหมู่บ้าน เรามาถึงโรงแรมในช่วงเย็น โรงแรมนี้คือ The Bene Hotel มี welcome drink เป็นพันซ์น้ำผลไม้รวม เราได้ห้องพักชั้นสอง ทุกห้องเป็น pool view มีระเบียงทุกห้อง ห้องพักสะอาด ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น cheekkachic - Indonesia - Bali ตู้เสื้อผ้ามีเซฟ และชุดคลุมอาบน้ำให้ cheekkachic - Indonesia - Bali มีตู้เย็น และชากาแฟ พร้อมน้ำเปล่า 2 ขวด ฟรีเปลี่ยนให้ทุกวัน แต่พนักงานทุกคนสวมเครื่องแบบสไตล์บาหลี พนักงานบริการดีมาก ยิ้มแน้มแจ่มใสตลอด cheekkachic - Indonesia - Bali ห้องน้ำมี rain shower พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำครบ มีไดร์ cheekkachic - Indonesia - Bali cheekkachic - Indonesia - Bali cheekkachic - Indonesia - Bali และเครื่องไล่ยุงแบบเสียบปลั๊ก กันเอาไว้ และที่พลาดสำหรับทริปนี้คือเราลืมปลั๊ก universal แต่โรงแรมนี้ได้มีปลั๊กแบบนั้นไว้ให้เรียบร้อยแล้วไม่ต้องถามหา ติดกับผนังเลย เราสามารถออเดอร์อาหารมาทานที่ห้องพักได้ ราคาโรงแรมทั่วไป รร.นี้มีสระว่ายน้ำเรามารู้ตอนได้ลงเล่นว่าสระควบคุมอุณหภูมิ ให้อุ่นพอดี และสปา ที่มีส่วนลด 30% หากเป็นผู้ที่เข้าพักกับรร. cheekkachic - Indonesia - Bali หลังจากเก็บของเสร็จ เราก็อยากจะไปเดินเล่นที่หาด Kuta ยามเย็นซะหน่อย จากโรงแรมที่พักเดินไปหาดไม่ไกลเลย ระหว่างทางก็มี street art ให้ชมกันอยู่เนืองๆ cheekkachic - Indonesia - Bali แสงน้อยแล้ว แต่คนก็ยังนิยมเล่นน้ำกันอยู่ cheekkachic - Indonesia - Bali cheekkachic - Indonesia - Bali พอพระอาทิตย์ตกก็เดินท่อมๆ กลับโรงแรม วันแรกอยากออกไปเดินตามถนน แถวนี้คล้ายย่านพัทยา หรือย่านที่ฝรั่งอยู่ มีคลับมากมาย ร้านอาหารเล็กๆ ข้างทาง ร้านขายของที่ระลึก ว่าแล้วท้องก็เริ่มร้อง เลยเข้าไปลองร้านอาหารเล็กๆ ริมทางดู จานแรกเป็นข้าวผัดโปะไข่ ธรรมดาเหมือนบ้านเรา cheekkachic - Indonesia - Bali ส่วน Mei goreng ข้างทาง ถ้าข้างทางจะใช้เส้นมาม่า แต่ถ้าร้านอาหารดีๆ ตัวเส้นคล้ายพวกยากิโซบะ ผัดกับผัก และเนื้อ แล้วแต่เราเลือก แต่โดยทั่วไปจะผัดกับผัก เราว่าคล้ายผัดมาม่าบ้านเรามาก cheekkachic - Indonesia - Bali ถัดมาเราเห็นร้าน burger street ก็ต้องขอลองซักหน่อย cheekkachic - Indonesia - Bali หลังจากซื้อเบอเกอร์ กำลังบ่นๆ ว่าไม่เห็นมีสะเต๊ะเลยเป็นภาษาไทย ก็มีผู้ชายบาหลีคนนึงยืนอยู่ข้างทางก็ชี้ไปว่า that's satae แปลกใจว่ารู้ได้ไงว่าเรากำลังถามหา เราก็ตรงเข้าไปซื้อเลยจ้า สะเต๊ะไก่ นุ่มมาก แต่สีเข้มเชียว ขายเป็นชุด เราก็จัดมาหนึ่งชุด ปล.สะเต๊ะไม่ได้ถ่ายรูป หลังจากนั้นก็หาซื้อน้ำในมินิมาร์ท มีอยู่ทั่วไปและเยอะมาก และเดินท่อมๆ กลับโรงแรม วันแรกเรามีปัญหากับการสับสนเรื่องเงินมาก 0 เยอะมาก ใช้เวลาในการจ่ายเงินพักใหญ่ ต้องบริหารดีๆ เพราะถ้าได้เหรียญมานี่ต้องรีบใช้เพราะหาวิธีใช้ลำบากเหมือนกัน กลับมาที่รร. ก็กินอาหารที่ซื้อมา และก็นอนแผ่หมดแรง เนื่องด้วยอดนอนและบู๊มาทั้งวัน ชาร์ทพลังให้วันถัดไป

2,933 total views, 2 views today

You may also like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *