อยากเห็นญี่ปุ่นในมุมมองแบบ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีบ้าง คงจะสวยไม่เบา เลยจ้องโปรหางแดงตาเป็นมันและแล้วเราก็ได้ตั๋วที่เหมาะสม
13 November 2017 – 22 November 2017
แผนการท่องเที่ยวญี่ปุ่น
-
-
- Japan Trip – เที่ยวญี่ปุ่นใบไม้เปลี่ยนสี ตอนที่ 1 วางแผนเที่ยว Japan
- Japan Trip – เที่ยวญี่ปุ่นใบไม้เปลี่ยนสี ตอนที่ 2 เดินทางไปญี่ปุ่น ลงสนามบินนาริตะ เข้าที่พักย่าน Samida
- Japan Trip – เที่ยวญี่ปุ่นใบไม้เปลี่ยนสี ตอนที่ 3 นั่งรถไฟสาย Fujikyo Railway ดูภูเขาไฟฟูจิ แช่น้ำร้อนย้อนยุคที่ Oedo Onsen Monogatari
- Japan Trip – เที่ยวญี่ปุ่นใบไม้เปลี่ยนสี ตอนที่ 4 พักที่ Osaka มื้อกลางวันกับเนื้อโกเบ เยือนปราสาทโอซาก้า – ชิวๆ มื้อค่ำที่ Dotonburi
- Japan Trip – เที่ยวญี่ปุ่นใบไม้เปลี่ยนสี ตอนที่ 5 Universal Studios Japan / Uoshin Sushi ซูชิหน้าล้น ย่าน UMEDA OSAKA
-
เนื่องจากญี่ปุ่นมีข้อมูลมากมาย เราขอแบ่งเป็นเรื่องๆ สามารถเลือกดูได้ตามรายละเอียดด้านล่าง
กดเลือกดูตามรายละเอียด |
---|
มารู้จักญี่ปุ่นกันก่อน
ภูมิภาคต่างๆของญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น 4 เกาะใหญ่ๆ คือ ฮอกไดโด, ฮอนซู, ชิโกกุ, และคิวชู และแบ่งประเทศออกเป็น 8 ภูมิภาค คือ
- ฮอกไกโด (Hokkaido)
- โทโอขุ (Tohoku)
- คันโด (Kanto)
- จุบุ (Chubu)
- คันไซ (Kansai)
- จูโงะกุ (Chugoku)
- ชิโกกุ (Shikoku)
- คิวชู (Kyushu)
แต่ในวันเดินทางของเรา จะไปที่ภูมิภาค คันโต และ คันไซ
สภาพอากาศ
ฤดูใบไม้ผลิ Spring มี.ค. – พ.ค.
อากาศอบอุ่นตอนกลางวัน และยังเย็นอยู่ในช่วงกลางคืน ท้องฟ้าแจ่มใส ต้นไม้และดอกไม้เริ่มผลิบาน โดยเฉพาะซากุระ
ฤดูร้อน Summer มิ.ย. – ก.ย.
ซากุระร่วง เป็นฤดูแห่งการเพาะปลูก จะมีเทศกาลประจำปีมากมาย มีการจุดพลุเฉลิมฉลอง
ฤดูใบไม้ร่วง Autumn ก.ย. – พ.ย.
อากาศเริ่มเย็นลงแต่ไม่ถึงกับหนาว กลางเดือนตุลาคมใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง ตั้งแต่ตอนเหนือของภูมิภาค จนถึงคันไซ เป็นอีกฤดูกาลที่มีความสวยงามและได้รับความนิยม อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 8-12 องศา
ฤดูหนาว Winter ธ.ค. – ก.พ.
อากาศเย็นลงจนถึงติดลบ โดยเฉพาะเดือนมกราคมจะหนาวที่สุด อาจจะมีหิมะตก
แลกเงิน Exchange
ญี่ปุ่นใช้หน่วยเงินเยน ตอนเราไปก็ไปแลกที่เดิม ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช
ระบบไฟฟ้า
สามารถใช้ได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าบ้านเรา เพียงแต่ต้องเตรียมปลั๊ก universal ไปนะจ๊ะ
เที่ยวบิน
มีหลายสายการบินที่บินตรงสู่ญี่ปุ่น และแบบต่อเครื่อง เราเลือกบินตรงเพราะสะดวก สายการบินที่เราเลือกก็คือ หางแดง
- Thai Air Asia X มีเที่ยวบินตรงจากดอนเมืองไปสนามบินนาริตะ ใช้เวลาเดินทางราว 6 ชม. 15 นาที มีเทียวบินวันละ 2 เที่ยว ดูรายละเอียดการจองตั๋วได้ที่
www.airasia.com
ที่พัก
เริ่มมองหาทั้งโรงแรมและ airbnb สุดท้ายก็ได้มาทั้งสองแบบสรุปที่พักได้ดังนี้
วันที่ / สถานที่ / Link | รายละเอียด | ราคา/คน |
---|---|---|
13 – 15 Nov 2017 Tokyo — 2 nights ราคารวม = 6845฿ https://www.airbnb.com/rooms/14126892 |
บ้านทั้งหลัง2 ชั้น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีครัวเล็ก 2min จากsubway KIKUKAWA สาย Shinjuku Line |
1141฿ |
15 – 17 Nov 2017 Osaka — 2 nights ราคารวม = 10,124.84฿ https://www.airbnb.com/rooms/10043899 |
บ้านทั้งหลัง 2 ชั้น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีครัวเล็ก ฝากกระเป๋าได้ ใกล้สถานีใต้ดิน Higashimikuni ที่ใกล้กับสถานีใหญ่แบบ shin osaka |
1687฿ |
17 – 18 Nov 2017 Tokyo — 1 night ราคารวม =4,786.20฿ https://www.airbnb.com/rooms/12632874 |
บ้านทั้งหลัง 2 ชั้น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีครัวเล็ก โฮสจะมารับที่สถานีรถไฟใต้ดิน Oji อยู่ห่างจาก Ueno 10 mins. |
1595฿ |
18 – 20 Nov 2017 Osaka — 2 nights ราคารวม =5,185.27฿ https://www.airbnb.com/rooms/14096033 |
อพาร์ทเมนท์ 1 studio ใกล้สถานี shin-osaka 5 นาที อยู่ชั้น 12 มีลิฟท์ |
1296฿ |
20 – 22 Nov 2017 Tokyo — 2 nights ราคารวม =5,349.16฿ โรงแรม My way Ueno inaricho https://www.mystays.com/en/ |
ใกล้สถานี inaricho ใกล้กับ สถานี ใหญ่ Ueno ห้อง 12 ตารางเมตร มีห้องน้ำในตัว ฝากกระเป๋าได้ |
1337฿ |
Coin Locker ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า
สำหรับการฝากกระเป๋าตามสถานีรถไฟต่างๆ เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวระหว่างที่ยังไม่สามารถ check in โรงแรม หรือ ที่พักได้
การฝากของใน Coin Locker สามารถฝากได้สูงสุด 3 วัน โดยนับเวลา 1 วัน จาก 24.00 น. ของวันที่ฝาก ไปจนถึง 24.00 น. ของอีกวันหนึ่ง เช่น เวลา 24.00 น. ของวันที่ 23 มี.ค. – 24.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค. เพราะฉะนั้นหากเรามาเอาของตอน 24.01 น. ของวันที่ 25 มี.ค. เราก็จะต้องหยอดเงินค่าฝากของเพิ่มไปอีกหนึ่งวันไม่เช่นนั้นตู้จะเปิดไม่ออก
หากฝากของเกินกว่าเวลา 3 วันของจะถูกเก็บไว้สถานีและต้องไปเสียค่าปรับกับเจ้าหน้าที่เพื่อเอาของคืน
Coin Locker ในประเทศญี่ปุ่นมี 2 แบบ
- แบบใช้ลูกกุญแจล็อค เป็นตู้ฝากของแบบล็อกเกอร์ที่ใช้กุญแจในการเปิด-ปิดตู้และชำระเงินค่าฝากของด้วยเหรีญ 100 เยน อาจไม่มีวิธีการใช้เป็นภาษาอังกฤษแต่มีวิธีการพร้อมรูปภาพทำให้นักท่องเที่ยวพอจะเข้าใจวิธีใช้ได้โดยง่าย
- แบบดิจิตอล เป็นตู้ฝากของรุ่นใหม่ที่มีแผงควบคุมส่วนกลางของตู้ทำให้ไม่ต้องใช้กุญแจ ซึ่งจะใช้รหัส (PIN) ที่ได้ออกมาในรูปแบบของใบเสร็จจากตู้ในการเปิด-ปิดตู้ การชำระเงินสามารถจ่ายได้ทั้งเหรียญ 100 เยน และ IC Card ชนิดต่าง ๆ ที่ผลิตขึ้นภายในประเทศญี่ปุ่น (เช่น Suica หรือ Pasmo) และสามารถเปลี่ยนเมนูใช้งานเป็นภาษาต่างประเทศได้ เช่น ภาษาอังกฤษ
ขนาดของล็อกเกอร์ | ส่วนสูง | กว้าง | ความลึก | ราคา |
เล็ก (Small) | 35 ซม. | 34 ซม. | 57 ซม. | 300 เยน / วัน |
กลาง (Medium) | 57 ซม. | 34 ซม. | 57 ซม. | 400 เยน / วัน |
ใหญ่ (Large) | 117 ซม. | 34 ซม. | 57 ซม. | 600 เยน / วัน |
คำแนะนำในการใช้ Coin Locker
- ในการใช้บัตร IC card ชำระเงินตู้ฝากของจำเป็นต้องใช้บัตรใบเดียวกันในการเปิดเอาของคืนด้วยเช่นกัน
- เมื่อทำการฝากของแล้วควรจดจำที่ตั้งหรือหมายเลขของตู้ที่เราฝากไว้ให้ดี (อาจถ่ายรูปเก็บไว้) เพราะในสถานีรถไฟ Coin Locker จะมีมากมายและหน้าตาเหมือนกันมาก
- หากฝากของกับ Coin Locker รุ่นเก่าจะต้องเก็บกุญแจไว้ให้ดี เพราะหากทำหายจะต้องไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ (อาจทำให้เสียเวลาเที่ยว) และหากใช้ตู้รุ่นใหม่ก็ควรเก็บใบเสร็จหรือจดรหัส (PIN) ที่เปรียบเสมือนกุญแจเอาไว้ให้ดีด้วยเช่นเดียวกัน
TICKET ตั๋วเดินทางในญี่ปุ่น
ยอมรับว่าค่อนข้างสับสนกับการเดินทางในญี่ปุ่นมาก เพราะมีบัตรหลายแบบ รถไฟนี่หลายขบวนมาก เลยไล่เรียงไปตามการเดินทางแล้วกันค่ะ
การเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินนาริตะ
มีให้เลือกหลายแบบ รถไฟ รถบัส และแท๊กซี่ แต่ทางที่สะดวกสุดสำหรับเราคือแบบรถไฟ
อาคารผู้โดยสารของสนามบินจะมีสถานีรถไฟไว้ให้ใช้บริการ จะแบ่งเป็น
- อาคารผู้โดยสาร 1 ใช้สถานี Narita Airport Station
- อาคารผู้โดยสาร 2 และ 3 ใช้สถานี Narita Airport Terminal 2 Station
ประเภทของรถไฟ
ชื่อรถไฟ | ประเภทบัตรที่ใช้ / สถานี/ เวลา | ราคา |
N’EX หรือ Narita Expressคือรถไฟด่วนพิเศษที่ให้บริการโดยบริษัทรถไฟของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า JR หรือ Japan Railway Group ประเภทตั๋ว
Website: http://www.jreast.co.jp/e/nex/ |
ประเภทบัตรที่ใช้ JR pass สถานี Airport (Terminal 1,2,3) – Tokyo station สถานีอื่นๆ ที่จอด Shinagawa, Shibuya, Shinjuku, Ikebukuro, Omiya, Yokohama, Ofuna เวลาเข้าเมืองโดยประมาณ 53 mins จุดจำหน่ายบัตร :
เวลาที่ให้บริการ
|
Free |
Keisei Skyliner : รถไฟด่วนพิเศษ (สีน้ำเงิน)
เวลาที่ให้บริการ Terminal 2,3 Website: http://www.keisei.co.jp/keisei/ |
สถานี ไม่จอดแวะระหว่างทาง
Airport (Terminal 1,2,3) – สถานี Nippori ใน 36 นาที Airport (Terminal 1,2,3) – สถานี Ueno ใน 41 นาที จุดจำหน่ายบัตร : เคาท์เตอร์ Keisei Electric Railway ในสนามบินนาริตะ Terminal 1,2,3
|
One trip Round trip ¥4940 |
Narita Sky Access Line : รถไฟธรรมดาแต่จอดเฉพาะป้าย (สีส้ม)
เมื่อซื้อตั๋วแล้วสามารถเลือกนั่งที่ไหนก็ได้ ไม่มีที่เก็บสัมภาระ แต่ราคาประหยัดและค่อนข้างรวดเร็ว Website: http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/th/sp/express/ |
ประเภทบัตรที่ใช้ IC Card สถานี Airport (Terminal 1,2,3) – สถานีหลัก ๆ ในเมืองโตเกียว Asakusa, Nihombashi, Higashi-Ginza, Nippori และ Ueno เวลาเข้าเมืองโดยประมาณ 64 mins |
¥1330 *หากใช้บัตร IC Card ¥1318 |
เลือกการเดินทางแบบนี้ เมื่อซื้อตั๋วแล้วสามารถเลือกนั่งที่ไหนก็ได้ ไม่มีที่เก็บสัมภาระ Website: http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/th/sp/mainline/ |
ประเภทบัตรที่ใช้ IC Card สถานี Airport (Terminal 1,2,3) – สถานี Ueno เวลาเข้าเมืองโดยประมาณ 70 mins |
¥1030 *หากใช้บัตร IC Card ¥1025 |
บัตรเติมเงิน IC card
IC Card คือบัตรเติมเงินที่สามารถชำระค่าโดยสารได้หลายประเภท(ใช้ได้ทั้งรัฐบาลและเอกชน) รถไฟฟ้าใต้ดิน รถบัส หรือเรือโดยสาร รวมทั้งใช้แทนเงินสดในร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า และร้านอาหาร โดยค่าบริการจะถูกหักจากเงินในบัตร ซึ่งต้องสังเกตด้วยว่า มีสัญลักษณ์ของ IC card หรือไม่ บัตรมีให้เลือกหลายประเภท แต่เราเลือกบัตร Suica เป็น IC card ของทริปนี้
อายุของบัตร: ใช้ได้นาน 10 ปี
IC card ประเภทต่างๆ
- Suica (JR East)
- Pasmo (Tokyo)
- Icoca (JR West)
- Pitapa (Kansai)
- Toica (JR Central)
- Manaca (Nagoya)
- Kitaca (JR Hokkaido)
- Sugoca (JR Kyushu)
- Nimoca (Fukuoka)
- Hayakaken (Fukuoka City)
Suica เป็น IC Card ที่ออกโดย JR East สามารใช้แทนเงินสดในการใช้บริการตู้กดอัตโนมัติ Coin Locker ภายในสถานีรถไฟได้อีกด้วย ไม่สามารถใช้นั่งขบวนรถไฟพิเศษ Limited Express, Shinkansen หรือ ขบวน Green car
สถานที่จำหน่าย: สถานีรถไฟในโตเกียว
Website: http://www.jreast.co.jp/e/pass/suica.html
ราคาจำหน่าย:
ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เติมครั้งแรก จะมีจำนวนเงินมัดจำ 500 เยน และเงินที่สามารถใช้ได้อีก 1,500 เยน
เด็ก 2,000 เยน (แต่ค่ารถไฟจะเป็นราคาเด็ก)
การเติมเงิน
เติมได้ครั้งละ 1,000/2,000/3,000/4,000/5,000/10,000 เยน
สามารถใช้ Suica ได้เมื่อพบเห็นสัญลักษณ์ต่อไปนี้
- ไม่สามารถใช้ขึ้นรถไฟด่วนชิงคันเซนได้
- เวลาใช้ก็นำบัตรไปแตะที่เครื่องอ่านบัตร รถไฟก็จะอยู่ตรงทางเข้า ส่วนรถบัสพอเดินขึ้นรถไปก็จะมีเครื่องให้แตะบัตร ช่วยประหยัดเวลาในการซื้อบัตรทีละเที่ยว
การคืนบัตร
- การคืนบัตรจะต้องทำในเขตที่ซื้อมาเท่านั้น ไม่รับคืนข้ามภูมิภาค เช่น ซื้อจากโตเกียวก็ต้องคืนโตเกียว
- หากมีเงินเหลือจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการคืนบัตร 220 เยน (หักจากมัดจำ) แต่ถ้ามียอดเงิน 220 เยน หรือ 0 เยน ก็จะได้รับมัดจำคืน 500 เยน ดังนั้นหากจะคืนบัตรก็ควรใช้ให้หมดหรือเหลือน้อยที่สุด
Japan Rail Pass – ตั๋วรถไฟทั่วประเทศญี่ปุ่น
Japan Rail Pass เป็นบัตรเหมาจ่ายรถไฟซึ่งออกโดย JR (Japan Railway) ช่วยให้นักท่องเที่ยวใช้เงินได้อย่างคุ้มค่าและเดินทางอย่างสะดวกสบาย บัตรเหมาจ่ายรถไฟนี้สามารถใช้กับรถไฟ JR และรถบัสและเรือข้ามฟากในเครือพันธมิตรได้ไม่จำกัดเกือบทั้งหมดในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวชั่วคราวที่สามารถพำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่น 15 วัน/90 วันเท่านั้น
Website: http://www.japanrailpass.net/en/
สถานที่จำหน่ายบัตร: ต้องซื้อจากนอกประเทศญี่ปุ่นผ่านเอเจนซี่ท่องเที่ยวที่ถูกกฎหมายก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น แล้วจึงนำเอกสารมาแลกเปลี่ยนตั๋วเมื่อเดินทางมาถึง ตั๋วมีอายุในการแลกเปลี่ยนภายใน 90 วันหลังจากวันซื้อ
ระยะเวลาในการใช้งาน 7 วัน 14 วัน และ21 วัน โดยมีตั๋วสองชนิด คือ Ordinary(รถไฟชั้นธรรมดา) และ Green(รถไฟชั้น1 ที่นั่งกว้างกว่า)
การใช้งาน
- ใช้กับรถไฟ JR Group Railways-Shinkansen ได้ทั่วประเทศ รวมทั้ง Shinkansen, limited express trains, express trains, rapid และ local trains
การใช้บัตร JR Pass กับ รถไฟ Shinkansen
ความเร็วของรถไฟ
จาก Tokyo Station/Shinagawa Station นั่งรถไฟ JR Tokaido Shinkansen ไปยัง Shin-Osaka Station
รถไฟ Hikari ใช้เวลา 3 ชั่วโมง
รถไฟ Kodama ใช้เวลา 4 ชั่วโมง
รถไฟ Nozomi ใช้เวลา 155 นาที
จากสถานี Shin-Osaka Station ไปยัง Kyoto Station
ใช้เวลา 15 นาที
ข้อจำกัดการใช้งาน
สามารถใช้ตั๋ว JR Pass สำหรับโดยสารรถไฟ Hikari หรือ Kodama เท่านั้น
ไม่สามารถใช้รถไฟ Nozomi Trains
ผู้ใช้ตั๋ว JR สามารถใช้รถไฟ Hikari Trains ในเส้นทางเดียวกันแทนได้ ซึ่งจะช้ากว่าเล็กน้อย
ไม่สามารถใช้รถไฟ Mizuho Trains
ผู้ใช้ตั๋ว JR สามารถใช้รถไฟ Sakura Trains ในเส้นทางเดียวกันแทนได้ ซึ่งจะช้ากว่าเล็กน้อย
การเดินทางใน Tokyo
รถไฟ JR สายหลักในใจกลางเมืองโตเกียว
แผนที่รถไฟสาย JR วิ่งรอบใจกลางเมืองโตเกียว และรถไฟ JR สายอื่นๆอีก 5 เส้นทาง
- Yamanote Line
วิ่งเป็นวงกลมเชื่อมต่อศูนย์กลางหลักๆของเมืองโตเกียว Tokyo, Ueno, Ikebukuro, Shinjuku, Shibuya และ Shinagawa - Keihin-Tohoku Line
วิ่งขนานกับ Yamanote Line ไปทางครึ่งวงกลมของทิศตะวันออก - Chuo/Sobu Line(local)
วิ่งตัดตรงกลางของวงกลมสาย Yamanote(เป็นรถไฟท้องถิ่นวิ่งช้า) - Chuo Line(rapid)
วิ่งตัดตรงกลางของวงกลมสาย Yamanote(เป็นรถไฟเร็ว) เชื่อมต่อระหว่าง Tokyo Station กับ Shinjuku Station - Saikyo Line
วิ่งขนานกับเส้น Yamanote ไปทางครึ่งวงกลมของทิศตะวันตก จาก Osaki Station วิ่งคู่กับ Rinkai Line ไปยัง Odaiba - Shinkansen
Tokaido Shinkansen จะแวะจอดที่ Tokyo Station กับ Shinagawa Station ส่วนรถไฟหัวจรวดจะจอดทางทิศเหนือที่ Tokyo Station กับ Ueno Station
Tokyo Metro และ Toei Subway– รถไฟใต้ดินโตเกียว
ประเภทของรถไฟใต้ดินในโตเกียว มี 2 ประเภท
รถไฟใต้ดินของบริษัท Tokyo Metro มีทั้งหมด 9 สาย
Website: http://www.tokyometro.jp/en/index.html
Toei Subway ดำเนินการสร้างโดยเทศบาลโตเกียว มีทั้งหมด 4 สาย
Website: https://www.kotsu.metro.tokyo.jp/eng/services/
ตั๋วรถไฟใต้ดินโตเกียว
Tokyo Subway Ticket (24-hour, 48-hour, 72-hour) เป็นตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในเมืองโตเกียว สามารถใช้บริการรถไฟใต้ดินได้ทั้ง 2 ประเภท คือ Tokyo metro และ Toei subway
ราคา:
Tokyo Subway 24-hour Ticket – ผู้ใหญ่: 800 เยน เด็ก: 400 เยน
Tokyo Subway 48-hour Ticket – ผู้ใหญ่: 1,200 เยน เด็ก: 600 เยน
Tokyo Subway 72-hour Ticket – ผู้ใหญ่: 1,500 เยน เด็ก: 750 เยน
อายุการใช้งาน:
Tokyo Subway 24-hour Ticket: ใช้ได้ 24 ชั่วโมงตั้งแต่เวลาที่ใช้ครั้งแรกภายในวันที่ระบุไว้ที่ด้านหลังของตั๋ว
Tokyo Subway 48-hour Ticket: ใช้ได้ 48 ชั่วโมงตั้งแต่เวลาที่ใช้ครั้งแรกภายในวันที่ระบุไว้ที่ด้านหลังของตั๋ว
Tokyo Subway 72-hour Ticket: ใช้ได้ 72 ชั่วโมงตั้งแต่เวลาที่ใช้ครั้งแรกภายในวันที่ระบุไว้ที่ด้านหลังของตั๋ว
สถานที่จำหน่าย และเงื่อนไขการซื้อ:
ซื้อได้ที่บริษัทท่องเที่ยว คูปองที่ทางบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวออกให้นั้นสามารถนำมาแลกได้ที่สำนักงานสถานีรถไฟโตเกียวเมโทรและสำนักงานสถานีรถไฟใต้ดินหลัก
- ไม่มีจำหน่ายในจังหวัดโตเกียว, คานากาวะ, ไซตามะ, ชิบะ, อิบารากิ, โทชิงิ, กุนมะ และยามานาชิ
- กรุณาซื้อตั๋วรวมกับผลิตภัณฑ์และบริการท่องเที่ยวอื่นๆของโตเกียว (การเดินทาง, ที่พัก, แพ็กเกจท่องเที่ยว เป็นต้น) ตั๋วนี้จะไม่มีการจำหน่ายแยก
- สนามบินนาริตะ หรือ ฮาเนดะ
- จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยวเท่านั้น (เราจะยืนยันตัวผู้เดินทางว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศหรือไม่ด้วยพาสปอร์ตและเอกสารอื่นๆ)
- จำหน่ายให้แก่ผู้โดยสารของสายการบินต่างๆเท่านั้น
http://www.tokyometro.jp/en/ticket/value/travel/index.html
รถไฟโอไดบะ Odaiba
เกาะโอไดบะมีเส้นทางรถไฟของตัวเอง ชื่อว่ายุริคาโมเมะ Yurikamome เป็นทางรถไฟสายสั้นๆ เชื่อมต่อกับรถไฟ JR – Subway ที่สถานี Shimbashi และสถานี Toyosu แผนที่นี้มีประโยชน์สำหรับตอนที่เราไปแช่น้ำร้อนย้อนยุคเราจะต้องใช้รถไฟสายนี้
การเดินทางใน Osaka
Osaka ประกอบด้วย 2 ย่านหลักๆ
- คิตะ Kita(ทิศเหนือ)รอบๆ สถานี Osaka Station และ Umeda Station
- มินามิ Minami(ทิศใต้) รอบๆ สถานีนัมบะ(Namba)
รถไฟใน Osaka
- รถไฟ JR West คือ Osaka Loop Line คล้ายกับ Yamanote Line ในโตเกียว
- รถไฟใต้ดิน Subway มีทั้งหมด 8 สาย
- Midosuji Line
- Tanimachi Line
- Yotsubashi Line
- Chuo Line
- Sennichimae Line
- Sakaisuji Line
- Nagahori Tsurumi-ryokuchi Line
- Nanko Port Town Line
- Nankai Railways
เชื่อมต่อระหว่าง Namba และ Kansai Airport, Wakayama และ Mount Koya - Hankyu Railways
เชื่อมต่อระหว่าง Umeda Station กับทิศเหนือของโอซาก้า, Kobe กับ Kyoto - Kintetsu Railways
เริ่มต้นที่ Namba Station, Tennoji Station และ Nagata Station
เชื่อมต่อโอซาก้ากับสถานที่อื่นๆทางทิศใต้ของภูมิภาคคันไซ เช่น Nara, Kyoto, Asuka, Yoshino, Ise และ Nagoya - Hanshin Railways
เริ่มต้นที่ Umeda Station และ Namba Station เชื่อมต่อโอซาก้า กับโกเบ - Keihan Railways
เริ่มต้นที่ Yodoyabashi Station และ Nakanoshima Station
เชื่อมต่อใจกลางเมืองโอซาก้า กับใจกลางเมืองเกียวโต
ตั๋วรถไฟใน Osaka
http://www.osaka-info.jp/th/plan/practical_information/travel_passes/
Osaka Amazing Pass เหมาะกับคนที่ท่องเที่ยวในโอซาก้ามากกว่า 1 วัน และต้องการเข้าชมสถานที่ที่มีค่าเข้าชมต่างๆ
ราคา
- 1 day pass: 2,500 เยน
- 2 day pass: 3,300 เยน (ต้องใช้ 2 วันต่อเนื่องกันเท่านั้น)
การเข้าชมสถานที่ต่างๆ
ท่านสามารถใช้สมุดคูปองที่แนบมากับตั๋วเพื่อเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ได้ฟรี 35 แห่งตลอดเส้นทาง เช่นปราสาทโอซาก้า สวนชมวิวลอยฟ้า ล่องเรือซานตามาเรีย เเละที่อื่นๆ
ตั๋วโดยสาร 1 วันของโอซาก้า(Osaka One-Day Pass) สามารถใช้โดยสารรถไฟใต้ดิน, city buses และรถราง New Tram(ยกเว้น OTS Line) ได้โดยไม่จำกัดภายใน 1 วัน ตั๋วชนิดนี้คุ้มค่า โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์และมีส่วนลดตั๋วเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว
- Enjoy Eco card
ผู้ใหญ่ ราคา ¥800 สำหรับวันธรรมดา ¥600 สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุด
สถานที่จำหน่าย: Osaka Municipal Transportation Bureau, สถานีรถไฟใต้ดินทุกสถานี
ส่วนลด สามารถดูรายการส่วนลดได้จาก ตารางส่วนลดสำหรับ Enjoy eco card http://www.kotsu.city.osaka.lg.jp/foreign/english/osaka1daypass_e/waribiki_ichiran.html
- สำหรับนักท่องเที่ยว จะขอดู passport ตอนซื้อ ไม่มีจำหน่ายตามสถานี ต้องซื้อที่ตัวแทนเท่านั้น
การเดินทางใน Kyoto
ในเกียวโตมีทั้งการเดินทางแบบรถไฟ และ รถประจำทาง
การเดินทางด้วยรถประจำทางใน Kyoto
แบ่งรถประจำทางเป็นประเภทต่างๆด้วยตามสีของป้าย
- ป้ายสีส้ม จะวิ่งเป็นวงกลมรอบเมือง มีรอบในกับรอบนอก ค่าโดยสาร 220 เยน
- ป้ายสีน้ำเงิน รถแบบเหมาจ่ายราคาเดียว 220 เยน
- ป้ายสีขาว แบบวิ่งไกลข้ามเขต คิดราคาตามระยะทาง ตอนขึ้นก็ต้องรับบัตรบอกต้นทางเอาไว้
- สายท่องเที่ยวจะเขียนชื่อสถานที่ไว้ที่ป้าย ราคา 220 เยนต่อเที่ยว
รถไฟ JR ในเกียวโต
- สายโตไกโด (Tokaido Line) หรือเรียกว่าสายเกียวโต (Kyoto Line) วิ่งจากโอซาก้า (Osaka) ผ่านสถานีเกียวโต ไปจนถึงชิโนมิยะ (Shinomiya) – เมื่อมาถึงชิโนมิยะรถไฟก็จะแยกออกเป็นสองสายคือสายที่ไปทางทิศเหนือเราจะเรียกว่า
- สายบิวะโกะ (Biwako Line)
- สายโตไกโด สายที่วิ่งต่อไปทางทิศตะวันออก
- สายนารา (Nara Line) วิ่งมาจากนารา (Nara) มาจอดที่สถานีเกียวโต
- สายซากาโน่ (Sagano Line) วิ่งมาจากคามาโอกะ (Kamaoga) วิ่งผ่านอาระชิยามะ (Arashiyama) และมาจอดที่สถานีเกียวโต
การซื้อตั๋วรถเมล์ Kyoto
ซื้อที่ Bus Ticket Center หน้าสถานี Kyoto จะมีเจ้าหน้าที่ขายตั๋วขายอยู่ ตั๋วรถเมล์เกียวโต (Kyoto Bus) แบบ 1 วัน หรือ Kyoto Bus One-Day Pass ราคา 500 เยน หรือสามารซื้อตั๋วรถเมล์ผ่านเครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติได้
วิธีขึ้นรถเมล์เกียวโต (Kyoto Bus)
ขึ้นด้านหลังและลงด้านหน้า เมื่อคนลงด้านหน้าหมดแล้ว ประตูหลังจึงจะเปิดให้ขึ้น ก่อนจะลงให้กดกริ่ง เมื่อรถจอดป้ายแล้วก็สอดตั๋วด้านที่มีลูกศรเข้าไป และดึงออก คล้ายรถไฟฟ้าบ้านเราเพื่อชำระเงิน ในรถจะมีป้ายบอกว่าป้ายหน้าเป็นป้ายอะไร
Thank you for reference
วางแผนท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
- องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น
http://www.jnto.or.th/ - วางแผนการเดินทางในญี่ปุ่น
http://www.hyperdia.com/ - ข้อมูลการท่องเที่ยว Osaka
http://www.osaka-info.jp/en/ - ข้อมูลการท่องเที่ยว Kyoto
https://kyoto.travel/th/
การเดินทางในญี่ปุ่น
- สนามบินนาริตะ Narita Airport
https://www.narita-airport.jp/en/ - รถไฟใต้ดิน Tokyo
http://www.tokyometro.jp/en/ - รถไฟใต้ดิน Osaka
http://www.kotsu.city.osaka.lg.jp/foreign/english.html - รถไฟ Hankyu Osaka
http://www.hankyu.co.jp/global/en/ - รถไฟสาย Fujikyo Railway
http://th.fujikyu-railway.jp/ - Fujikyo Bus
http://bus-en.fujikyu.co.jp/
ตั๋วต่างๆ
- Japan Rail Pass
http://www.japanrailpass.net/en/
- Kansai Thru Pass
http://www.surutto.com/tickets/kansai_thru_thai.html
สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
- ตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยวที่ปิดซ่อมแซมในญี่ปุ่น
https://www.japan-guide.com/event/construction.html - รายละเอียดเกี่ยวกับทะเลสาบ Kawaguchiko
https://www.fujikyu.co.jp/en/ - กระเช้าที่ทะเลสาป Fujikyo
http://www.kachikachiyama-ropeway.com/en/
4,603 total views, 2 views today