งานบุญกลางบ้าน ณ หอประวัติเมืองแกลงและศาลาต้นโพธิ์ ตลาดสามย่าน – Samyan Rayong

"ถึงหย่อมย่านบ้านกร่ำพอค่ำพลบ ประสบพบเผ่าพงศ์พวกวงศา ขึ้นกุฏิที่สถิตท่านบิดา กลืนน้ำตาก็ไม่ฟังเฝ้าพรั่งพราย"

นิราศเมืองแกลง สุนทรภู่

#ทุกภาพถ่ายด้วย Samsung Galaxy Note8 จ้า ได้ไปเที่ยวเมืองแกลงช่วงกำลังมีงานประจำปี "งานประเพณีบุญกลางบ้าน อ.แกลง จ.ระยอง ปีที่ ๑๕ ประจำปี ๒๕๖๑" ที่จัดเป็นประจำทุกปี งานแบบบ้านๆ ที่ดูบรรยากาศแบบไทยๆ น่าไปเที่ยวชม เรามารู้จักประเพณีกันก่อน ประเพณีบุญกลางบ้าน งานบุญกลางบ้าน ได้เริ่มกันมาแต่เดือนธันวาคม 2546 แต่เดิมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกด้วยจุดประสงค์ที่จะให้เป็นงานฉลองศาลาริมน้ำคลองประแสหลังใหม่ ซึ่งการก่อสร้างศาลาต้นโพธิ์หลังนี้ถือเป็นโครงการหลายๆ โครงการ จากการสืบค้นข้อมูลประวัติความเป็นมาได้ระยะหนึ่งพบว่าเรื่องราวต่างๆ ในเมืองแกลง ล้วนมีความผูกพันกับคลองประแส ทั้งการดำเนินชีวิต การทำมาค้าขาย การเดินทาง ฯลฯ หากไม่มีคลองประแสอาจะไม่มีเมืองแกลงก็เป็นได้ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นต้นเชื้อที่ทำให้ได้ตระหนักในคุณค่าคลองประแส และเป็นเหตุผลสำคัญของการจัดงานบุญกลางบ้านขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยฐานทางความคิดที่ว่า คลองประแสจะดีหรือแย่นั้น ล้วนย่อมเกิดจากน้ำมือคน ฉะนั้นจึงได้มีการคิดว่าทำอย่างไรจะให้คนหวนกลับมาเห็นคลองหลังจากละทิ้งห่างหายกันไปหลายสิบปี "มาตรการขนคนไปยลคลอง" ด้วยวิธีหรือรูปแบบต่างๆ จึงถูกปรุงขึ้นและงานบุญกลางบ้านนี้เองก็เป็นหนึ่งในมาตรการขนคนไปยลคลองเพื่อให้ผู้คนได้ใกล้ชิด ได้กลับมาเยือน การให้ชื่อตอนในแต่ละปี เพราะอย่างน้อยที่สุด การที่การจัดงานแต่ละปีจะถูกกำหนดชื่อตอนไว้ ย่อมหมายถึงว่า เมื่อปีนี้มีชื่อตอนแล้ว ปีหน้าย่อมจะต้องมีชื่อตอนกันต่อไปอย่างไม่ขาดตอน เพื่อว่างานจะไม่ต้องถูกตอนลบออกไป โดยการให้ชื่อตอนนั้น ได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่การจัดงานครั้งที่ 2 เรื่อยมาดังนี้ ซึ่งปีนี้ชื่อตอนก็ได้แก่

"15 ปี บุญกลางบ้าน สืบสานวัฒนศิลป์ เล่าขานตำนานแกลงบุรินทร์ ประแสสินธุ์ผ่านเมืองเฟื่องอุดม"

พูดถึงเมืองแกลงเรามาดูความประวัติความเป็นมากันดีกว่า

ประวัติเมืองแกลง ที่มาของชื่อเมืองแกลง  สำหรับที่มาหรือความหมายของคำว่า "แกลง"ไม่มีปรากฏอยู่ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 สันนิษฐานว่าเป็นคำในภาษาชอง ชนเผ่าที่เคยอยู่อาศัยในแถบจังหวัดระยอง แต่ดั้งเดิมมีความหมายว่า "แหวน" ซึ่งตั้งตามชื่อหนองน้ำใกล้บริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งเมืองแกลงในอดีต มีลักษณะวงกลมรูปวงแหวน และอีกข้อสันนิษฐานหนึ่ง คำว่าแกลงมีความหมายว่า "ปลาดุก" เนื่องจากเมืองแกลงตั้งอยู่ริมน้ำ เมื่อก่อนมีปลาดุกชุกชุม จากเมืองขึ้นสู่อำเภอ สถานะของเมืองแกลงนั้นไม่พบหลักฐานชัดเจนว่าเปลี่ยนจากเมืองเป็นแขวงอำเภอตั้งแต่เมื่อไหร่ สันนิษฐานเอาว่า จะเป็นตั้งแต่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะปกครอง ร.ศ. 116 โดยมีพระบรมราชโองการให้เมืองแกลงขึ้นกับเมืองระยอง และใ้ช้ชื่อว่าอำเภอแกลงตั้งแต่นั้นมา อำเภอแกลง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "สามย่าน" เดิมมีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นจัตวาในสมัยของพระพุทธเจ้าหลวง (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5) มีชื่อว่า "เมืองแกลง" ตั้งอยู่บริเวณแหลมเมือง ตำบลปากน้ำประแส อยู่ในการปกครองของมณฑลจันทบุรี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2440 ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ติดกับชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกและเป็นหัวเมืองสำคัญจึงมีกองทหารเรือมาตั้งประจำการ ต่อมาเมื่อมีการย้ายกองทหารเรือออกไปประจำการที่อื่น ทางราชการจึงได้ย้ายหัวเมืองมาตั้งอยู่ที่ บ้านโพธิ์ทอง ตำบลทางเกวียน อยู่ทางทิศเหนือของวัดโพธิ์ทองในปัจจุบัน เมื่อปี พ.ศ. 2451 ซึ่งเป็นสมัยที่มีการปรับปรุงระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน เมืองแกลงจึงถูกยุบลงมาเป็นอำเภอ เรียกชื่อว่าอำเภอ "แกลง" ขึ้นตรงกับจังหวัดระยอง โดยมีหลวงแกลงแกล้วกล้า (ศรี บุญศิริ) ดำรงตำแหน่งนายอำเภอคนแรก ในปี 2451 หลวงแกลงแกล้วกล้าได้ย้ายที่ว่าการอำเภอจากละแวกบ้านทางเกวียนไปตั้งที่บ้านสามย่าน โดยมีเหตุผลว่า มีสภาพเหมาะสมที่จะขยายตัวเมืองให้เจริญขึ้น เพราะติดกับแม่น้ำประแส การคมนาคมสะดวก และที่ตั้งเดิมก็น้ำท่วมทุกปี

เราไปเที่ยวงานกัน ที่นี่เขามีรถรับส่งด้วยเป็นรถราง

ภายในงานก็มีการออกร้าน ของกินเยอะมาก และคนที่มาเที่ยวก็นิยมใส่ชุดไทยมา หรืออาจจะเป็นแนวผ้าไทย

แวะกินพิซซ่าร้านแรกก่อน เราจัดพิซซ่า แซลมอนรมควัน ไข่กุ้ง แป้งบางกรอบ อร่อยดี

 

วันนี้พระจันทร์มัวหน่อย เพราะก่อนที่จะเดินเล่นได้ มีฝนตกลงมาเล็กน้อย

มาตรงโซนของ หอประวัติเมืองแกลง มีการประดับประดาไฟสวยงาม ทางเข้า

มีร้านตกแต่งแบบบรรยากาศไทยๆ สวยงามเรียงรายให้ชอปปิ้งกันได้

และนี่หอประวัติเมืองแกลงในเวลากลางคืนประดับไฟแล้วดูสวยงามอีกแบบค่ะ ว่าด้วยเรื่องของหอประวัติเมืองแกลง

หอประวัติเมืองแกลง หลายๆ ท่านคงรู้จักในชื่อ "โรงพักเก่า" หรือ "สถานีตำรวจภูธรอำเภอแกลงหลังเดิม" ซึ่งเกิดขึ้นมาแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๙๔ และเมื่อประชากรมีจำนวนเพิ่มขึ้น สถานีตำรวจหลังเดิมซึ่งมีพื้นที่อันจำกัด จึงรองรับการให้บริการไม่เพียงพอเท่าที่ควร ประกอบกับความชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลาของเรือนที่สร้างด้วยไม้ จึงได้ยุติการใช้งานสถานีตำรวจเดิม และย้ายไปปฏิบัติงาน ณ สถานที่ใหม่ และเมื่อได้พิจารณาว่าหากถึงวันที่ต้องรื้อถอนเรือนหลังเดิมทิ้งไป พี่น้องชาวเมืองแกลง คงจะต้องรู้สึกเสมือนบ้านตลาดสามย่านได้ถูกตัดทอนชิ้นส่วนสำคัญ ชิ้นหนึ่งออกไปจากเมืองแกลงอย่างน่าใจหาย ด้วยเรือนหลังนี้ได้ตั้งอยู่บนถนนสายหลัก อย่างถนนสุนทรโวหารคู่กับความเป็นบ้านตลาดสามย่านมาช้านาน ในปีพ.ศ.๒๕๔๗ เทศบาลตำบลเมืองแกลงพร้อมด้วยสถานีตำรวจภูธรแกลง ได้ร่วมกันจัดทำโครงการก่อสร้างเรือนหลังใหม่ขึ้น โดยยึดรูปทรง ขนาดและเค้าโครงของเรือนหลังเดิมเป็นหลัก โดยกำหนดวงเงินในการก่อสร้างประมาร ๕ ล้านบาท และได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๒ และในปีนี้ ๒๕๕๔ ก็ได้จัดพิธีเปิดเรือนหอประวัติเมืองแกลง อย่างสมบูรณ์แบบ โดยได้รับเกียรติจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ท่านธวัชชัย เทอดเผ่าไทย เป็นประธานในพิธีเปิดเรือนหอประวัติเมืองแกลง ในวันศุกร์ที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๔

 

ที่นี่มีจัดฉายหนังกลางแปลงแต่ว่าติดแอร์ นั่นก็คือ "สามย่านราม่า" มีแจกบัตรฟรีให้ด้วย จะได้บรรยากาศการซื้อตั๋วหนัง

โรงหนังก็ติดแอร์นะจะบอกให้

เครื่องฉายหนัง เราชอบตรงเหมือนมีควันๆ ข้างบน จำได้ว่าตอนเด็กๆ ชอบไปยืนมอง

เสร็จแล้วเรากำลังมุ่งหน้าไปที่สะพานฉลอง 100 ปี บ้านตลาดสามย่าน คลองประแสค่ะ

บรรยากาศตรงสะพาน

เราแอบขอคนที่มาเที่ยวงานแล้วแต่งชุดไทยชักภาพสักหนึ่งรูปเป็นที่ระลึก แต่งแล้วดูเข้ากันกับบรรยากาศงานดีค่ะ

ถ้ามองจากบนสะพานก็จะเห็นภาพนี้

 

ทางเดินไปขึ้นเรือจ้าง

นั่งเรือแจวคนละ 20 บาท

A post shared by cheekkachic (@cheekkachic) on

 

A post shared by cheekkachic (@cheekkachic) on

เวทีที่จัดงานก็มีการแสดงต่างๆ มากมาย คนก็ให้ความสนใจกันเยอะเลยนะ

หลังจากนั้นเราก็เดินกินกันต่อ ท้องม้วนอ่อน อันนี้คล้ายๆ กับทองม้วนสดนะ

กล้วยมัมมี่ ก็เป็นแป้งห่อกล้วยแล้วเอาไปทอด จะต่างกับกล้วยแขกตรงอันนั้นชุบแป้งแล้วเอาไปทอด

พลาดไม่ได้กับผัดไทยเจ้าดัง ใส่ปูด้วย เส้นจันทร์อร่อยเหาะ

กาละแมกะทิสด กวนกันสดๆ

และมี mock up ให้ถ่ายรูปมากมาย พี่หมื่นกับแม่การะเกดกำลังดังก็ต้องมาด้วย

สุดท้ายก็อย่าลืมลองมาเที่ยวงานกันนะ ปีหน้ายังมีของกินอร่อย งานบรรยากาศน่ารัก น่ามาเที่ยวกัน

  Reference อ้างอิง: http://www.muangklang.com/bunklangban51/success-bunklangban51.html http://www.muangklang.com/suksa/16-20MarchBoonKlangBaan54/HistoryBuildingMarch54.html

4,968 total views, 2 views today

You may also like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *