เนื่องมาจากอากาศฟ้าฝนคะนอง แต่เราก็อยากจะไปพักผ่อน ช่วงปลายปี Cheekka เลยเลือกที่ๆ ไม่ไกลจาก กทม. มากนัก และประจวบเหมาะกับได้ Voucher ที่พักมา ก็เลยจัดซะเลย Cheekka เลือกวันเสาร์อาทิตย์ที่ไม่ใช่วันหยุดยาว เลยได้ทริปสงบๆ เน้นบรรยกาศ สวยๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อนจากความเหนื่อยล้า ในการทำงานหรือในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบใน กทม. จ้า ปูจ๋า ทำไมวิ่งเร็วจัง กว่าจะจับภาพได้ ย่องอยู่ตั้งนาน เปิดด้วยภาพปูลมละกันเนาะ เอ้อละเหย จนไปถึงที่พักเกือบเย็น ขับไปเรื่อยๆ ไม่รีบ มาถึงก็มา Check-in และได้รับการต้อนรับด้วย Welcome drink จ้า   ที่นี่จะมีห้องพักสไตล์ต่างๆ แล้วแต่ผู้เข้าพักจะเลือก ซึ่งแต่ละหลังก็บรรยากาศต่างกัน Cheekka เลือก Villa Japan เป็นห้องพักตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ เมื่อมาถึงห้องพักก็ต้อนรับด้วย เค้กชิฟฟ่อน มะพร้าวอ่อน ได้เลขห้องสวย 111  

บรรยากาศห้องพักค่ะ

มุมทานของว่าง ก็จับจองด้วยเค้กเรียบร้อย

ชั้นวางเครื่องดื่ม และตู้เย็น

โทรศัพท์ทรงโบราณ แต่ยังใช้งานได้นะคะ

ห้องน้ำตกแต่งสไตล์ ญี่ปุ่น อ่างล้างหน้าน่ารักดีค่ะ ชอบๆ

ห้องน้ำมีส่วน ที่ดูเหมือน open air แต่จริงๆ แล้วเพดานเป็นกระจกใสค่ะ

คนกลัวแมลงอย่าง Cheekka ก็เลยอาบน้ำได้แบบสบายใจนิดนึง แหะๆ

เปิดประตูห้องมาก็เจอบ่อปลาคาร์ฟ ตกแต่งแบบสวนญี่ปุ่น

แต่แอบมีกล้วยไม้

ยังมีอีก 2 ห้องอยู่ในโซนพื้นที่เดียวกันค่ะ

มุมนั่งเล่นข้างห้อง

มีจักรยานให้ขี่เล่นได้

เก็บของเสร็จเราก็ถือโอกาสออกมาเดินเล่น อยากจะไปแถวชายหาด แอบมาส่องอีกห้องที่เป็นแบบ อินเดียสไตล์

ทางเดินตรงไปเป็นชายหาด ใครหิวก็ทางขวาเลยค่ะเป็นห้องอาหาร หากใครเมื่อยก็ทางซ้ายเป็นสปาค่ะ

แอบแวะมาดูสระว่ายน้ำ ที่อยู่ตรงโซนห้องอาหารซักหน่อย

สระแอบเล็กไปนิด แต่ถ้าอยากว่ายน้ำก็สามารถเล่นได้ค่ะ

ตรงนี้น่าจะเป็นห้องพักแบบ Pent house ที่ได้วิวติดทะเลค่ะ

เราลงไปชายหาดกันดีกว่า

มุมทานอาหารอีกมุม หากใครชอบริมทะเลก็สามารถสั่งมาทานแถวนี้ได้ค่ะ

ได้โต๊ะประจำตำแหน่งละ กะว่าจะทานอาหารเย็นโต๊ะนี้ด้วยเลย ชมวิวก็ดี ^^

 

เพื่อนคู่ใจ ตัวเล็กแต่แจ๋ว

ชายหาดที่นี่เงียบสงบดีค่ะ คนน้อย ค่อนข้างจะเป็นชายหาดส่วนตัว ทรายละเอียด

บรรยากาศชิวๆ แดดร่มลมตก

เดินเล่นเลาะหาดไปเรื่อยๆ

ที่นี่ทำให้นึกถึงตอนเด็กๆ ที่เราเคยไปเที่ยวชายหาด เดี๋ยวนี้เห็นเปลือกหอยแบบนี้น้อยแล้ว ที่นี่มีเปลือกหอยสวยๆ เต็มเลย

ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าเป็นรูปหัวใจ

ศิลปะบนผืนทราย อดไม่ได้ที่จะเล่นทุกครั้งที่มาทะเล ใครเป็นบ้างยกมือขึ้น

นอกจากเปลือกหอยแล้ว ก็ยังมีเจ้าปูลม วิ่งเร็วอย่างกับเจ้าลมกรด เข้าใจแล้วทำไมถึงเรียกปูลม วิ่งเร็วอย่างกะลม พริ้วมาก จับภาพแทบไม่ทัน บางตัวก็ตัวบางสีเนียนไปกับทราย   อันนี่น่าจะเป็นเรือตกหมึก   น้ำทะเลไม่น่าเหมาะที่จะเล่น แมงกะพรุนเพียบ นี่ยังมาเกยตื้นอยู่หนึ่งตัว แอบช่วยให้มันลงทะเลไปด้วย   เดินย้อนกลับมายังที่พักก็เริ่มจะมืดแล้ว   

พักกันอีกสักแป๊ป ท้องก็ร้องเสียแล้ว ออกไปหาอะไรทานที่ห้องอาหารใกล้ๆ นี่ล่ะ มื้อนี้ไม่ฟรีนะจ๊ะ เลือกโต๊ะตัวที่เล็งไว้ บอกกับทางร้านว่าขอนั่งริมทะเลนะคะ พนักงานก็จัดการให้เรียบร้อย

สั่งเครื่องดิ่มชื่อยิ่งใหญ่มาลองชิมอันดับแรก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น สามร้อยยอดเมาท์เท่น น่าจะเป็นแอบเปิ้ล สับปะรด และแตงโม ปั่นรวมกันนะ

มาดูเมนูอาหารดีกว่า Cheekka เลือกข้าวผัดปูจานกลาง

กุ้งผัดเม็ดมะม่วง

ปลากะพงสามรส

และซุปข้นกุ้ง

อาหารรสชาติดี ราคาสมเหตุสมผล พนักงาน คอยมาถามไถ่ แม้ว่าเราจะปลีกวิเวกมานั่งริมทะเล ประทับใจดีค่ะ สำหรับคนชอบบรรยากาศโรแมนติก น่าจะชอบค่ะ ^^

ชมวิวตอนกลางคืนซักหน่อย เรือตกหมึก เปิดไฟสีเขียว เรียงกัน จนเห็นเมฆที่ลอยต่ำเป็นสีเขียวเรืองๆ สวยดีค่ะ

บรรยากาศริมสระตอนกลางคืนค่ะ หากใครยังไม่ง่วง ก็นั่งฟังเพลงชิวๆ ได้ค่ะ

    

เซทอาหารเช้าค่ะ เป็นบุฟเฟ่ต์ มีให้เลือกเยอะเลย แล้วแต่จะเลือกทานค่ะ

  

พร้อมด้วยกาแฟสด ลาเต้หอมๆ มาในแก้วใส รับยามเช้าที่สดใสจ้ะ ถูกใจคนชอบดื่มกาแฟอย่างเรา

ก่อนจะ check out ก็ขอเดินเล่นซักหน่อย วันนี้อากาศดี แผนผังที่พักค่ะ

  

ท้องฟ้าวันนี้สวยมาก

ออกจากที่พัก ก็ขอแวะถ่ายรูปเล่นที่สถานีรถไฟกุยบุรีซะหน่อย

สถานีเล็กๆ แต่น่ารักดีค่ะ

รางรถไฟเส้นขนาน

หลังจากนั้นเราก็แวะไปเดินเล่นที่ตลาดน้ำหัวหิน

แต่ไม่ค่อยมีคนเลยค่ะวันนี้ สงสัยไม่ใช่วันหยุด

เลี้ยงอาหารปลาคาร์ฟ เหมือนทริปนี้จะเจอแต่ปลาคาร์ฟ

ร้านกาแฟ

ไม่ใกล้ไม่ไกล ก็มีอีกตลาดให้ไปเดินเล่น ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม

เหมือนที่นี่จะคนคึกคักกว่า

ของขายคึกคัก สลับกับมุมให้ถ่ายภาพ

  

  

วันหยุดนี้ไปเที่ยวกันนะคะ ^^