เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี – Fuji in Mist – ฟูจิขี้อายในสายหมอก – cheekkachic.com – blog, personal website, web site, photo, photography, designer, traveller, journal, trip

ออกจากที่พักใกล้สถานี Kikukawa แต่เช้าตรู่ แต่ก็ทำใจไว้แล้วว่าพยากรณ์อากาศวันนี้ค่อนข้างแย่ แต่ก็คิดว่าคงได้ประสบการณ์การเดินทางไปชมภูเขาไฟฟูจิก็แล้วกัน แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ตายล่ะ ลืมซื้อ Tokyo day pass จากสนามบิน เราก็เลยไปถามจากนายสถานีที่ Kikukawa ว่าจะซื้อได้ที่ไหนยังไง สรุปว่านายสถานีพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่จิ้มๆ แผนที่แนะนำให้ไปสถานี Shinjuku เราเลยมุ่งหน้ากันไปที่สถานี Shinjuku ที่เป็นทางผ่าน

Kikukawa (Sasazuka) → ShinJuku JR Toei Subway — Shinjuku Line สายสีเขียว

ShinJuku JR → Otsuki IC card

แต่เราก็งงสลับไปมาระหว่าง JR กับ Subway นายสถานีสองคนนี่พอไปถามก็โยนให้กันไปมา เดินสลับไปมาอยู่เป็นชม. สรุปว่า เราตัดสินใจเดินข้ามถนนไปยังอีกฝั่งเพื่อไปยัง Tourist information แล้วก็ได้คำตอบว่ามีที่ซื้ออยู่ชั้นบนเป็น Tourist information Center Tokyo แต่ว่ามันจะเปิด 11 โมง เราก็เลย ไปหากาแฟทานรอก่อนที่จะมาซื้อ

แวะถ่ายภาพกันอีกสักเล็กน้อย

เมื่อได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว เราก็อออกเดินทางจากสถานี Shinjuku เราก็นั่งต่อไปยังสถานี Otsuki เพื่อไปขึ้นรถไฟสาย Fujikyo Railway จากสถานี Shinjuku ก็ใช้เวลาเป็นชม.กว่าจะถึงสถานี Otsuki ซึ่งน่าจะเป็นสถานีนอกเมือง

รถไฟโล่งเชียว

บรรยากาศระหว่างทาง

ไหนๆ ก็มาช้าแล้ว เมื่อถึงสถานี Otsuki เราเลยแวะเก็บภาพเมืองเล็กๆ ที่สถานีกันเล็กน้อย และแวะเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะอีก 1 ชม. เป็นรถไฟที่ไม่มีห้องน้ำ

หน้าสถานี

Website รถไฟสาย Fujikyo Railway: http://th.fujikyu-railway.jp/ จากสถานี Otsuki (โอซึกิ) นั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko(คาวาคูจิโค) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารขบวนธรรมดา 1,140 เยน ไม่สามารถใช้ JR Pass ได้ เราก็เข้าไปซื้อตั๋วที่เครื่องจำหน่ายตั๋วเป็นตั๋วธรรมดา แล้วก็ไปถามนายสถานีว่าอันนี้ขึ้นชานชาลาไหน แต่นายสถานีแจ้งว่า ถ้าเพิ่มอีกคนละ 200 เยน จะสามารถนั่งอีกขบวนหนึ่งที่ออกเร็วกว่า ถึงเร็วกว่า เราก็เลยเพิ่ม สรุปว่ามันคือรถไฟสีแดง ขบวนไม้น่ารักมาก

บนรถไฟจะเป็นที่นั่งแบบหันหน้าชนกัน มีโต๊ะเล็กๆ วางของได้ วันนี้คนไม่เยอะ สักพักเจ้าหน้าที่ก็มาแจกลูกอมรูปรถไฟสีสวย น่ารักเชียว

บนรถไฟมีเจ้าหน้าที่บรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่นตลอดเวลาถึงสถานีต่างๆ ที่รถไฟผ่านไป

วิวระหว่างทาง

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่จะต้องเห็นภูเขาไฟฟูจิ แต่วันนี้เมฆปิดสนิทเราก็เลยเห็นแต่ฟ้าขาวๆ แต่ได้นั่งรถไฟไม้ก็สนุกดีไปอีกแบบค่ะ ระหว่างทางก็จะมีเจ้าหน้าที่เอาป้ายมาให้ถือถ่ายรูปกับป้ายด้วย ว่าได้เดินทางมากับรถไฟขบวนนี้ และมีจำหน่ายของที่ระลึกเป็นพักๆ

ภาพรถไฟที่เราโดยสารมาวันนี้

รถไฟจอดแวะให้ดูรถขบวนนี้วิ่งผ่านไป

ทะเลสาบ Kawaguchiko

เมื่อถึงสถานี Kawaguchiko เราก็ไปซื้อตั๋วสำหรับการท่องเที่ยวรอบทะเลสาบ มี Mockup รถไฟหน้าสถานี

รายการตั๋วแบบต่างๆ ราคาตั๋วแบบพาสที่ใช้ได้แบบไม่จำกัดเที่ยวในเวลาสองวัน รถวิ่งทุกๆ 30-40 นาที

สาย Kawaguchiko Line Retro Bus ราคา ¥1200
สาย Kawaguchiko Line Retro R Coupon Selected เราเลือกซื้อแบบนี้ค่ะ ราคา ¥2,360/ 2days incl. cable (1 ride) and boat (1ride-20min)
สาย Saiko-Aokigahara Line Retro Bus ราคา ¥1,340

เราสามารถซื้อตั๋วภายในสถานีได้เลยเมื่อไปถึงนะคะ เราจะซื้อตั๋วเป็น ¥2360 ซึ่งจะได้ Ticketมา 3 ใบ สำหรับใช้บริการรถ Retro bus รอบ Kawaguchi lake แบบ unlimited ในเวลา 2วัน + ขึ้น Kachi kachi ropeway (กระเช้าชมวิว Kawaguchi lake และ Mt.Fuji) 1 เที่ยว + ล่องเรือในKawaguchi lake 1 รอบ (ประมาณ 20 นาที) แต่ถ้าไม่ซื้อ One day pass จะจ่ายค่าโดยสารเป็นครั้งก็ได้ แต่ต้องจ่ายเป็นเงิน ไม่สามารถจ่ายด้วยบัตร Pasmo, Suica ได้ การเดินทางโดยบัสสายพิเศษนี้มีทั้งหมด 21 ป้ายบัส ระยะทางโดยประมาณอยู่ที่ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาโดยรอบประมาณ 30 – 40 นาที (เป็นเวลาที่ไม่แวะลงที่ไหน) เวลารอรถ busให้ไปรอตามป้ายที่เขียนว่า “Kawaguchiko Sightseeing Bus-RED LINE” (ถ้า Green line จะเป็น Saiko Sightseeing Bus) บนรถ Retro bus จะมีการประกาศชื่อสถานีที่รถจะจอดตลอดสาย ขอแผนที่เส้นทางรถ Retro Bus และตารางรถ ได้ตรง Tourist Information ตั้งอยู่ด้านขวามือ เมื่อเดินออกจากสถานี Kawaguchiko การลงรถบัส ทำได้ง่ายๆโดยการกดปุ่มสีแดงที่อยู่ตามเสาสีส้มหรือที่หน้าต่างบนรถก่อนถึงป้ายที่จะลง Retro bus คันสุดท้ายออกจาก Kawaguchiko station เวลา 17.40 น. รายการป้ายรถบัสที่จะแวะ

ลำดับการเดินทาง	ป้ายรถบัส	สถานที่ท่องเที่ยว
เริ่มที่สถานี Kawaguchiko 09:45 – 14:30 โดยประมาณ	Bus stop 1	Kawaguchiko station สถานีที่รถไฟจอดและซื้อตัวรถ
ไปสวน Oishi Park 10:12 – 10:42	Bus stop 22	Natural Living Center ร้านขายของสิ่งค้าท้องถิ่นและของฝากต่างๆให้เลือกสรรค์ พร้อมมีที่นั่งทานกาแฟซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนพร้อมบรรยากาศผ่อนคลาย Oishi Park ถ้ามีเวลาและอากาศดีสามารถที่จะเดินเล่นไปถึงสวนได้อีกด้วย
แวะถ่ายภาพ อุโมงค์เมเปิ้ลแดง 10:51 – 11:36	Bus stop 19 -18	พิพิธภัณฑ์ Kobota Itchiku จัดแสดงชุดกิโมโนลวดลายงดงามที่เห็นได้ยากตามทั่วไปบริเวณจุดจอดรถริมทางเดิน มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ในหน้าซากุระจะมีซากุระบานสะพรั่ง และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีอุโมงค์เมเปิ้ลสีแดงสดเป็นแนวยาวอยู่ริมถนน นอกจากนั้นจะมีร้านขายของของชาวบ้านแถวนั้น ซึ่งสามารถที่จะเดินชมวิวได้จนไปถึงจุดจอดรถที่ 17 มีสถานที่เด่นคือ Koga Masao memorial Park อีกด้วย
แวะทานอาหารกลางวัน 11:49 – 12:49	Bus stop 17-16	Kawaguchiko Music Forest จัดรวมแสดงเครื่องดนตรีจากทั่วทุกมุมโลกและกล่องดนตรีหลากหลายรูปแบบที่จัดโชว์พร้อมมีสวนย่อมสไตล์ยุโรปน่ารักโรแมนติก ที่สามารถดื่มดำไปกับเสียงดนตรี ธรรมชาติและความสวยงามที่น่าตื่นตา และยังที่จะสามารถเดินไปชม พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงภาพเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิ ที่มีทั้งภาพเขียนและภาพถ่ายจำนวนมาก
ขึ้นกระเช้า 12:56 – 13:56 ล่องเรือ 13:56 – 14:26	Bus stop 11	Mt.Tenjo มีกระเช้าไฟฟ้า Kachi Kachi Ropeway มองเห็นวิวทะเลสาบคาวากูจิและภูเขาไฟฟูจิได้อย่างงดงาม สัญลักษณ์ของกระเช้านี้เป็นรูปกระต่ายที่มีประวัติเล่าขาน หรือใครที่อยากจะชมความงามอีกแบบหนึ่งก็มีเรือนำเที่ยวให้บริการเพื่อที่จะชมทัศนียภาพโดยรอบกลางทะเลสาบ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
	Bus stop 7	Kawaguchiko Herb hall ที่อาณาจักรของสมุนไพรที่มีทั้งมุมน้ำชาสมุนไพร เครื่องหอม ที่สำคัญมีกิจกรรมให้ลองทำอีกด้วย ซึ่งมีทั้งขายที่เป็นของฝากน่ารักๆ และหากเดินเข้าไปด้านในจะพบที่รวบรวมสมุนไพรประมาณ 150 ชนิด

Bus stop 1 Kawaguchiko station เรามาถึงที่นี่ช้าเป็นเวลาอาหารกลางวันแล้วจึงแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านตรงข้ามสถานีชั้นสอง ร้านเล็กๆ น่ารัก ถ้าอากาศดีสามารถมองเห็นวิว ภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย แต่เราเจออากาศไม่ดี ก็จ๋อยไปตามระเบียบ

อาหารมาแล้วหน้าตาหน้ากินเชียว ข้าวหน้าหมูทอดคัตสึด้ง

ไก่ย่างเทอริยากิ

Bus stop 22 Natural Living Center & Oishi Park ในระหว่างที่เรานั่งรถล่วงเลยมาที่นี่เป็นป้ายแรก เราก็ได้เห็นฟูจิโผล่พ้นเมฆระหว่างทาง แต่พอมาถึง สวน Oishi Park จะเป็นจุดสำหรับชมวิวฟูจิ ฟูจิซังกลับไปหลบอยู่หลังหมู่เมฆเสียดายที่อากาศไม่ดี และฝนเริ่มตก เราจึงไปยังป้ายถัดไป

ฟูจิจำลอง

หนาวๆ แบบอึมครึม

Bus stop 19 -18 Maple Corridor แวะถ่ายภาพกับอุโมงค์เมเปิ้ล แม้อากาศจะไม่ดี แต่เมเปิ้ลก็ยังสวย สีแดงเต็มอุโมงค์

Bus stop 11 Kachi Kachi Ropeway เกือบสามโมงเย็นแล้วเราก็ต้องรีบไปขึ้นกระเช้าทั้งฝนตกๆ นี่ล่ะ เพราะญี่ปุ่นมืด 4 โมงเย็น Website: http://www.kachikachiyama-ropeway.com/en/ สำหรับราคาขึ้นกระเช้าชมวิว จะมีราคาตามนี้ค่ะ

การท่องเที่ยวกระเช้า

กระเช้าเปิดให้บริการเวลา 9.00-17.10 น. และออกทุกๆ 5-10 นาที ใช้เวลาขาละ 3 นาที แต่ถ้าเดินเท้าต้องใช้เวลาถึง 40 นาที
บนจุดชมวิว มี Foot bath สำหรับออนเซ็นเท้าคลายเมื่อย ฟรี!
จุดชมวิวด้านบน จะมีทาง hiking trail ชื่อ Mitsutoge-yama ที่ใช้เวลาเดินประมาณ 3.5 ชั่วโมง ซึ่งจะได้เห็นวิว Mt.Fuji สวยๆ
กินขนม Fuji Dango

แผนผังกระเช้า

ทางขึ้นกระเช้า ก็มีรูปปั้นเจ้าทานุกิ อยู่มาลองอ่านตำนานกันคร่าวๆ ด้านล่างได้เลยจ้า

ตำนาน Kachi-Kachi Yama ก่อนขึ้นกระเช้า มาฟังนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นเรื่อง “คาชิ คาชิ ยามา” หรือ “กระต่ายกับทานุกิ” กันก่อนเพราะเมื่อขึ้นไปบนโน้นแล้วจะได้อินกับตัวการ์ตูนสองตัวนี้ มีทานุกินิสัยไม่ดีตัวหนึ่งชอบมาขโมยพืชผักในสวนคุณตายายเป็นประจำ จนวันหนึ่งถูกคุณตาจับได้ จึงจับมัดมือมัดเท้านำมาแขวนไว้ในบ้าน เพื่อเก็บไว้ทำเป็นอาหารภายหลัง (ทานุกิ : สัตว์ประเภทแรคคูน ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า เป็นปีศาจที่สามารถแปลงร่างได้) เมื่อคุณตาไม่อยู่บ้านเจ้าทานุกิเจ้าเล่ห์ก็อ้อนวอนกับคุณยายว่า หากคุณยายปล่อยมันให้เป็นอิสระมันจะกลับเนื้อกลับตัวใหม่โดยไม่มาขโมยพืชผักและจะช่วยคุณยายตำข้าวด้วย จนคุณยายใจอ่อนแก้มัดปล่อยมันลงมา แต่ปรากฏว่าเมื่อได้รับอิสระ ตัวทานุกิกลับใช้สากตำข้าวตีหัวคุณยายจนเสียชีวิต และเอาคุณยายมาทำซุปพร้อมกับแปลงร่างเป็นคุณยาย นั่งรอคุณตากลับมาเพื่อจะเสิร์ฟซุปคุณยายให้คุณตารับประทาน เลือดเย็นไม่ใช่เล่น หลังจากคุณตารู้เข้าก็โศกเศร้าเสียใจเป็นอันมาก ร้อนถึงกระต่ายซึ่งเป็นเพื่อนคุณตาคุณยาย ได้ขันอาสาช่วยแก้แค้นให้ แผนแรกก็คือทำทีไปตีสนิทกับเจ้าทานุกิ ออกอุบายว่าไปตั้งแคมป์ไฟกัน โดยให้ทานุกิช่วยกันขนฟางแห้ง ในระหว่างทานุกิกำลังแบกฟางอยู่นั้น กระต่ายที่แอบเดินตามหลังก็ใช้หินไฟมาต่อยกันจนเกิดประกายไฟจุดฟางบนหลังทานุกิทำให้ไฟไหม้หลังเจ้าทานุกิจนเกิดเป็นแผล (เสียงหินไฟกระทบกันญี่ปุ่นออกเสียงเป็น “คะชิ คะชิ” คงเป็นที่มาของชื่อนิทาน Kachi Kachi Yama และชื่อภูเขา Mt.Kachi Kachi) แผนต่อไปกระต่ายทำตัวเป็นผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายโดยบอกทานุกิว่าจะช่วยรักษาแผลไฟไหม้ให้ กระต่ายจึงนำยาซึ่งทำจากพริกกะเกลือผสมกันทาไปที่แผลเจ้าทานุกิ เจ้าทานุกิก็ร้อง ปวดแสบปวดร้อนน้ำตาไหลออกมาเป็นฟองฟอด แค่นั้นยังไม่สาสมกับความผิดที่ทานุกิทำไว้กับคุณยาย มาถึงแผนขั้นเด็ดขาด กระต่ายท้าทายทานุกิให้มาแข่งขันกันพายเรือข้ามทะเลสาบ โดยกระต่ายต่อเรือของตนเองด้วยไม้ ส่วนเรือทานุกิให้เอาดินเหนียวมาปั้น ทานุกิก็ทำตาม แสดงว่าทานุกิเจ้าเล่ห์ถนัดแต่ใช้กำลังสะหมงสมองไม่ค่อยมี เมื่อพายออกไปกลางทะเลสาบ เรือของทานุกิซึ่งเป็นดินเหนียวเมื่อถูกน้ำก็ละลายค่อย ๆ จมลง ทานุกิร้องขอความช่วยเหลือจากกระต่าย แต่กระต่ายยืนกระต่ายสองขาพร้อมกับแสดงตนว่า ข้านี้แหละคือเพื่อนซี้ของคุณตาและคุณยายที่แกฆ่าไปทำซุป นี่คือปฏิบัติการล้างแค้นการกระทำที่เหี้ยมโหดของแก เมื่อไม่มีใครช่วยทานุกิจึงจมน้ำตายในที่สุด

วิวจากกระเช้า

หนาวๆ แบบนี้ก็ต้องขนมดังโงะ รูป Fujisan

Fuji In Mist

A post shared by cheekkachic (@cheekkachic) on Nov 29, 2017 at 10:00am PST

เนื่องจากเริ่มจะเย็นและฝนตก เราเลยตัดรายการล่องเรือไปอย่างเสียดาย ไว้คราวหน้าจะกลับมาแบบอากาศดีๆนะ ไปเที่ยวกันต่อในตอนถัดไปนะจ๊ะ แช่น้ำร้อนย้อนยุคช่วงหัวค่ำจ้า ^^

2,857 total views, 1 views today